
วายแอลจีปรับเป้าหมายราคาทองคำปี 2566 ใหม่ เป็น 2,075-2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังรับปัจจัยหนุนนักลงทุนกังวลวิกฤตภาคธนาคารสหรัฐและยุโรปอาจไม่จบง่าย ส่งผลเฟดมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยน้อยลง แนะเพิ่มความระมัดระวังเหตุราคาเข้าใกล้จุดสูงสุด
วันที่ 22 มีนาคม 2566 นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า ตั้งต้นปีจนถึงวันที่ 21 มีนาคม ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วประมาณ 7.85% จากที่เปิดตลาดประมาณ 1,823 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ มาทำระดับสูงสุดของปีที่ 2,009 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ถือเป็นการทำราคาสูงสุดใหม่ทุกวันนับจากวันศุกร์ที่ผ่านมา และเป็นการปรับขึ้นสูงสุดนับจากเดือนเมษายน 2565 และถือว่าเข้ามาใกล้จุดสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 2,075 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
- ตรวจหวย ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 มิ.ย. 66 (อัพเดต)
- “เหล้า-เบียร์” เจ๊กอั้ก ! ร่างกฎหมายใหม่ คุมเข้ม-สุดโหด
โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการกลับเข้ามาเติมเงินสู่ระบบของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องของกลุ่มธนาคารในสหรัฐและลุกลามมาสู่ยุโรป ซึ่งปัจจัยนี้ยังส่งผลให้นักลงทุนจับตาดูธนาคารแห่งอื่นๆที่เผชิญปัญหาเดียวกันอาจจะมีมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้ว่าเฟดและกระทรวงการคลังของสหรัฐจะออกมาตรการให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่เติมสภาพคล่องสู่ระบบแต่ธนาคารท้องถิ่นของแต่ละรัฐมีจำนวนมาก จึงทำให้นักลงทุนยังมองว่ามีความเสี่ยง
ดังนั้นสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำจึงมีแรงซื้อเข้ามา นอกจากนี้ตลาดยังคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอความเข็งแกร้าวในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ก็เริ่มคงเข้าซื้อทองคำ จึงหนุนให้ทองคำพุ่งอย่างแข็งแกร่ง
จากปัจจัยเหล่านี้วายแอลจีได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำจากต้นปีที่ประเมินไว้ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เป็น 2,075-2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำในช่วงนี้หากต้องการเข้าซื้อสามารถทำได้แบบเก็งกำไรระยะสั้น เพราะราคาทองคำปรับขึ้นไปค่อนข้างมากแล้ว มีโอกาสเจอแรงขายทำกำไรแถว ๆ 2,075-2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
อย่างไรก็ตามหากต้องการซื้อสะสม แนะนำให้รอราคาปรับตัวลงแถว ๆ 1,804-1,786 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ กรอบแนวรับ 29,350-29,100 บาทต่อบาททองคำ แนวต้าน 33,800 บาทต่อบาททองคำ
“อย่างไรก็ดีทองคำแม้ว่าราคาทองคำจะเป็นทิศทางแกว่งตัวสู่ขาขึ้น แต่วายแอลจียังคงแนะนำสัดส่วนการลงทุนทองคำที่ดีควรมีทองคำ 5-10% ของพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนรวม โดยไม่แนะนำให้ไล่ราคาเพราะทองคำขึ้นมาใกล้จุดสูงสุดอาจจะมีแรงขายทำกำไรได้” นางสาวฐิภากล่าว