หุ้น-การเงิน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดขั้นตอนดำเนินการ เมื่อ บจ.ส่งงบฯ ล่าช้า

หุ้นไทย

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดขั้นตอนดำเนินการ กรณีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ส่งงบฯ ล่าช้า

วันที่ 29 เมษายน 2566 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยข้อมูลการส่งงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) โดยระบุว่างบการเงินเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุนใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยมีข้อมูลทั้งเหตุการณ์สำคัญ ผลการดําเนินงาน และสถานะทางการเงินในอดีตของกิจการ

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถนำมาคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคตของกิจการได้ด้วย  แต่เมื่อบริษัทจดทะเบียนไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการดำเนินการอย่างไร และบริษัทจดทะเบียนต้องแก้ไขอย่างไร

กรณีที่ 1 ส่งงบแล้ว : ผู้สอบบัญชีรับรอง

ในกรณีนี้หากบริษัทจดทะเบียนไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด จะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย “SP” หรือ Suspension คือเครื่องห้ามซื้อขาย  จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินและทางผู้สอบบัญชีรับรองเรียบร้อย เครื่องหมาย “SP” จะถูกปลดออกและกลับมาทำการซื้อขายได้ตามปกติ

กรณีที่ 2  ส่งงบแล้ว : ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความคิดเห็น

ในกรณีนี้หากบริษัทจดทะเบียนไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด จะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย “SP” หรือ Suspension คือเครื่องห้ามซื้อขาย จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินและหากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP ต่ออีกเป็นระยะเวลา 1 วันเพื่อให้นักลงทุนศึกษาข้อมูล

โดยในวันทำการถัดไป ตลาดหลักทรัพย์จะปลดเครื่องหมาย SP และขึ้นเครื่องหมาย NP หากผู้สอบบัญชีไม่ได้รับความร่วมมือจากบริษัทในการตรวจสอบงบ จะขึ้นเครื่องหมาย C ให้ซื้อด้วย Cash Balanceจนกว่าก.ล.ต.จะแจ้งว่าไม่ต้องแก้ไข

กรณีที่ 3  ส่งงบแล้ว : ผู้สอบบัญชีระบุว่างบไม่ถูกต้อง

ในกรณีนี้หากบริษัทจดทะเบียนไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด จะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย “SP” หรือ Suspension คือเครื่องห้ามซื้อขาย จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินและหากผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้วระบุว่างบไม่ถูกต้องจะต้องขึ้นเครื่องหมาย SP ต่อ

เมื่อครบ 6 เดือน นับแต่วันที่ครบกำหนดส่งงบการเงิน ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน โดยคงเครื่องหมาย SP และขึ้นเครื่องหมาย NC จนกว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขให้เหตุเพิกถอนหมดไปโดยให้เวลา 3 ปี ในการแก้ไข

ทั้งนี้หากครบ 3 ปี บริษัทดำเนินการแก้ไขให้มีคุณสมบัติก็จะสามารถกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ แต่หากแก้ไขไม่ได้จะถูกสั่งเพิกถอนทันที โดยจะเปิดให้ผู้ลงทุนต้องซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวในระยะเวลา 7 วันด้วย Cash Balance เฉพาะหลักทรัพย์ที่ถูกเพิกถอน