หุ้นไทย 5 วันหลังเลือกตั้ง ร่วง 50.41 จุด นักลงทุนต่างชาติขาย 10,678.94 ล้านบาท ด้าน บล.กสิกรไทยฯชี้สัปดาห์หน้า SET เสี่ยงหลุด 1,500 จุด โดนกดดันจากสองปัจจัย
วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานภาพรวมภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (15-19 พ.ค.) พบว่าดัชนี SET Index ปรับตัวร่วงลง 4 วันกว่า 50.41 จุด โดยเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ลดลง 19.97 จุด (-1.28% จากดัชนีวันก่อนหน้า) ต่อมาวันที่ 16 พ.ค. ลดลง 1.54 จุด (-0.10%) และถัดมาเมื่อ 17 พ.ค. ลดลง 17.10 จุด (-1.11%) และปิดตลาดเย็นวันที่ 19 พ.ค. ลดลง 11.80 จุด (-0.77%) มาอยู่ระดับ 1,514.89 จุด โดยลงไปทดสอบระดับต่ำสุดของวันที่ 1,512.66 จุด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยช่วงวันที่ 15-19 พ.ค. มีมูลค่าซื้อขายในแต่ละวันอยู่ที่ 68,385 ล้านบาท, 53,189 ล้านบาท, 57,403 ล้านบาท, 54,750 ล้านบาท และ 47,318 ล้านบาท (ตามลำดับ) โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิหุ้นไทยตลอดทั้งสัปดาห์ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 10,678.94 ล้านบาท
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ดัชนี SET Index สัปดาห์นี้ค่อนข้าง underperform เมื่อเทียบตลาดหุ้นภูมิภาค โดยหลัก ๆ โดนกดดันจากราคาหุ้นในกลุ่ม SET50 และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสัปทานจากความกังวลการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล โดยแทบทุกตัวราคาหุ้นลดลงเฉลี่ย 5-10%
ในขณะเดียวกันค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นมาอย่างมีนัย จากเดิมอยู่บริเวณ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ วันนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 34.38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลัก ๆ เกิดจากความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้เสียงแตกโดยส่วนหนึ่งก็เชื่อว่า ส.ว.โหวตไม่ครบ เมื่อเหตุผลออกมาในลักษณะนี้ทำให้นักลงทุนต่างชาติ “เกียร์ว่าง”
เรียกว่าสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรและหุ้นไทย รวม ๆ กันกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท จึงส่งผลให้เกิด overhang โดยภาวะหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (22-26 พ.ค.) คงไม่แตกต่างจากสัปดาห์นี้ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนทางการเมือง คงจะเป็นลักษณะการเปิดเผย MOU ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ค. ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องดูว่า ส.ว. จะมาช่วยโหวตเพิ่มหรือไม่ ดังนั้นตลาดหุ้นจะยังเป็น overhang อยู่
ขณะเดียวกันปัจจัยต่างประเทศ โอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือน มิ.ย.อยู่ ๆ ปรับเพิ่มขึ้นมาจาก 10% เป็น 40% ผสมรวมกับโอกาสจะมีการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐ จึงเป็นเหตุที่ส่งผลต่อ Dollar Index แข็งค่าด้วย
เพราะฉะนั้นสองปัจจัยดังกล่าวจะกดดันดัชนี SET Index อาจจะลงไปทดสอบบริเวณแนวรับ 1,490 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,535 จุด สะท้อนว่าดัชนีมีโอกาสหลุด 1,500 จุด
กลยุทธ์ลงทุน “นิ่ง ๆ ไปก่อน” อาจจะยังไม่ได้เป็นจังหวะของการเพิ่มน้ำหนักลงทุน เพราะว่ากว่าภาพรัฐบาลจะชัดเจนนาน 2 เดือน หรือจนถึงช่วงการเปิดประชุมสภาเลย เพราะฉะนั้นปัจจัยนี้จะกดดันนักลงทุนต่างชาติให้ขายทำกำไรหุ้นไทย
