ธปท. เปิดสถิติ 5 อันดับ แจ้งความออนไลน์ “ภัยการเงิน” ระบาดหนัก

ภัยการเงิน

ธปท. ชี้ธุรกรรมออนไลน์โตเร็วมาพร้อมกับ “ภัยการเงิน” เพิ่มขึ้น เปิดสถิติแจ้งความออนไลน์ 5 อันดับแรก พบหลอกให้ซื้อขายสินค้า/บริการมากสุด ส่วนภัยที่สร้างมูลค่าความเสียหายมากสุด คือ หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์

วันที่ 10 มิถุนายน 2566 น.ส.พรนิภา สินโพธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวในงานสัมมนาสัญจรที่ ธปท. จัดร่วมกับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ที่ จ.ขอนแก่น ว่าพัฒนาการการชำระเงินทางออนไลน์ขยายตัวถึง 30-50% ในปี 2566 นี้

และจากข้อมูลที่ ธปท. เก็บในเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทาง Internet Banking หรือ Mobile Banking และทางพร้อมเพย์ที่มีบัญชี 140 ล้านบัญชี การเติบโตของการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ มาพร้อมกับภัยทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย

ทั้งนี้ จากสถิติการแจ้งความออนไลน์พบว่า 5 อันดับ ที่มีการแจ้งความเข้ามา มีดังนี้

  • อันดับ 1 คือการหลอกให้ซื้อขายสินค้าหรือบริการ มีจำนวน 89,791 คดี มีมูลค่าความเสียหาย 1,307 ล้านบาท
  • อันดับ 2 คือ การหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน จำนวน 34,071 คดี มูลค่า 4,108 ล้านบาท
  • อันดับ 3 หลอกให้กู้เงิน จำนวน 31,202 คดี มูลค่าเสียหาย 1,293 ล้านบาท
  • อันดับ 4 หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 21,626 คดี แต่มูลค่าเสียหาย 10,420 ล้านบาท
  • อับดับ 5 ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call center) จำนวน 19,271 คดี มูลค่าเสียหาย 4,180 ล้านบาท

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ ให้กับประชาชนและนักลงทุน รู้ว่าพฤติกรรมแบบไหนไม่โอน ไม่กดลิงก์เข้าไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย

“จากความร่วมมือกันของทุกหน่วยงาน การตั้งศูนย์รับเรื่องออนไลน์ การมีตำรวจไซเบอร์ ส่งผลให้สถิติการรับแจ้งออนไลน์ที่เคยสูงมากถึง 27,000 คดี ในเดือน ธ.ค. 2565 ลดลงมาเหลือ 20,000 คดี ในเดือน มี.ค. และมีแนวโน้มลดลง แต่ก็ยังถือว่าเยอะอยู่” น.ส.พรนิภากล่าว


5 อันดับ ภัยการเงิน