คลังยัน ไม่ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นการเฉพาะตอนนี้

ภาษี พรรคการเมือง

กระทรวงการคลังยัน ยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 3% จาก 7% เป็น 10% เป็นการเฉพาะในตอนนี้

วันที่ 27 สิงหาคม 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ขอชี้แจงประเด็นที่มีข่าวเสนอถึงแนวทางการแก้ปัญหาการออมสำหรับผู้สูงอายุ ที่จะปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก 7% เป็น 10% โดยในส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอีก 3% นั้นจะออกกฎหมายเฉพาะ

“กระทรวงการคลัง ขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามแนวคิดดังกล่าว”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีข้อเสนอจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า รัฐบาลอาจออกกฎหมายเฉพาะ ปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 3% เพื่อนำมาเป็นรายได้มาเป็นเงินออมของประชาชนเพื่อใช้ในวัยเกษียณ เพื่อให้คนไทยมีเงินออมไว้ใช้สำหรับเกษียณอายุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีการศึกษาโครงสร้าง เสนอ และพยายามผลักดันมาแทบทุกรัฐบาล ด้วยการเพิ่มการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็น 10% เนื่องจากจะทำให้รัฐบาลได้เม็ดเงินมาจำนวนมาก เพื่อมาใช้ในการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ หรือดำเนินการตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาล

แต่พรรคการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศมักจะไม่กล้าขึ้นภาษี เนื่องจากมีผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นฐานเสียงโดยตรง และทำให้กระทรวงการคลังต้องใช้วิธีต่ออายุการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ในปัจจุบันออกไปทุกปีเมื่อจะสิ้นสุดในเดือนกันยายนของปีงบประมาณนั้น ๆ ทุกปี

ทั้งนี้ ประเทศไทยกำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 10% ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงจากระบบภาษีการค้ามาเป็นระบบภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อปี 2535 รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยยังไม่เคยมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแบบเต็มอัตรา โดยได้มีการออกมาตรการบรรเทาการเก็บ ด้วยการออกพระราชกฤษฎีกาลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% เป็นประจำทุกปี ยกเว้นในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี’40 เท่านั้นที่มีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% แต่หลังจากนั้นก็กลับลดมาใช้เหลือ 7%