STARK แจงสอบธุรกรรมการเงินผิดปกติล่าช้า เหตุ “ดีลอยท์” เลิกสัญญา

STARK

“สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น” แจงเหตุตรวจสอบธุรกรรมการเงินที่ผิดปกติล่าช้า เหตุ “ดีลอยท์” ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญา ไม่มีการระบุเหตุ รอหนังสือชี้แจงกลับ ชี้ดีเอสไอ-หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเดินหน้าสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 7 กันยายน 2566 นายอรรถพล วัชระไพโรจน์ กรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่บริษัทได้สมัครใจว่าจ้างให้บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา จำกัด (ดีลอยท์) ภายใต้สัญญาให้บริการ Financial Crime เพื่อดำเนินการขยายผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ (Forensic Accounting) และแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานเกี่ยวกับพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ผู้จัดการ และหรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทในอดีต

และได้ปรากฏเป็นข่าวว่า ดีลอยท์ ได้ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาฯ ถึงบริษัทนั้น บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องดังนี้

1.เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ดีลอยท์ ได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาฯ มายังบริษัท เพื่อให้การเลิกสัญญามีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2566

2.เนื่องจากหนังสือบอกเลิกสัญญาไม่ได้มีการระบุเหตุในการเลิกสัญญาฯ อย่างชัดแจ้ง ทำให้บริษัทไม่อาจทราบถึงข้อเท็จจริงหรือเหตุในการเลิกสัญญาฯ ดังกล่าวได้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 บริษัทจึงได้ทำหนังสือถึงดีลอยท์เพื่อสอบถามถึงสาเหตุหรือข้อขัดข้องที่ทำให้ดีลอยท์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาฯ จนเป็นเหตุในการเลิกสัญญาฯ ดังกล่าว ซึ่งจนถึงวันที่ของหนังสือฉบับนี้ บริษัทก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากดีลอยท์แต่อย่างใด

บริษัทเห็นว่าการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ (Forensic Accounting) ดังกล่าวมีประโยชน์กับบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวางแนวทางในการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ตลอดจนการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต

ทั้งนี้ ทีมงานของดีลอยท์ที่ดำเนินการตรวจสอบได้มีการทยอยส่งมอบข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้ค้นพบระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาฯ ให้แก่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ขยายผลในการการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องไปแล้วบางส่วน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริษัทไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเหตุในการเลิกสัญญาฯ อย่างเพียงพอที่จะชี้แจงต่อนักลงทุน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงต้องดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง และยังอยู่ระหว่างการรอให้ดีลอยท์ทำหนังสือตอบกลับ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง หรือเหตุในการใช้สิทธิเลิกสัญญาฯ ให้บริษัททราบเพิ่มเติม

ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงต้องขออภัยในความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมที่สำคัญที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะในภายหลัง

ทั้งนี้แม้การบอกเลิกสัญญาฯ จะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ (Forensic Accounting) ของบริษัท แต่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็ยังดำเนินการทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อสืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายต่อไป