“เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์” เบี้ยวหนี้หุ้นกู้ บล.ดาโอ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ขีดเส้น 60 วัน ฟ้องร้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด “สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย” เผยผิดนัดไขว้อีก 1 รุ่น รวมมูลหนี้ 1.2 พันล้าน
วันที่ 19 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ของหุ้นกู้มีประกันรุ่น DR212A ของบริษัท เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ จำกัด ครั้งที่ 2/2562 ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด ได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นกู้ทราบว่า
บริษัท เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ จำกัด (DR) (ผู้ออกหุ้นกู้) ไม่ได้ชำระดอกเบี้ยงวดครบกำหนดชำระวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ซึ่งถือเป็นเหตุผิดนัดหุ้นกู้ตามข้อกำหนดสิทธิ และบริษัทในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้ใช้สิทธิของข้อกำหนดสิทธิเรียกให้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call default)
“เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์” เบี้ยวหนี้หุ้นกู้
โดยเรียกให้ผู้ออกหุ้นกู้ชำระเงินต้นหุ้นกู้รุ่น DR212A จำนวน 557 ล้านบาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยค้างชำระในอัตรา 8.50% ต่อปี ของเงินต้นหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน คำนวณตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 จนถึงวันที่ผู้ออกหุ้นกู้ชำระหนี้ค่าไถ่ถอนหุ้นกู้ โดยกำหนดให้ผู้ออกหุ้นกู้ชำระหนี้ภายในวันที่ 15 กันยายน 2566 แล้วนั้น
ภายหลังจากการแจ้งเหตุผิดนัด ทาง DR ได้จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 14 กันยายน 2566 เพื่อขอแก้ไขเหตุผิดนัด โดยการขอเลื่อนการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้งวดครบกำหนดชำระเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ไปชำระในวันที่ 15 กันยายน 2566 ซึ่งผลของการประชุมผู้ถือหุ้นกู้พบว่า
วาระที่ 1 องค์ประชุมอนุมัติด้วยจำนวนเสียง 92.0265% พิจารณาให้เลื่อนการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ งวดที่ถึงกำหนดชำระเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ไปชำระในวันที่ 15 กันยายน 2566 และพิจารณาอนุมัติผ่อนผันให้การที่บริษัทไม่ได้ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ จำนวน 9,552,473.06 บาท ในวันถึงกำหนดชำระนั้น ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัด และผ่อนผันการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเหตุผิดนัดดังกล่าว รวมทั้งพิจารณาอนุมัติให้ยกเลิกการเรียกให้หุ้นกู้ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call default) ตามหนังสือของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
โหวต 100% ฟ้องร้องบังคับคดี
วาระที่ 2 องค์ประชุมอนุมัติด้วยจำนวนเสียง 100% พิจารณาอนุมัติมอบหมายให้ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ดำเนินคดีแก่บริษัทในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ และผู้จำนอง และพิจารณาอนุมัติให้บริษัทในฐานะผู้ออกหุ้นกู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องในการดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีจนคดีถึงที่สุด ในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติในวาระที 1 แล้ว แต่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระหนี้ตามเงื่อนไขตามที่ได้รับอนุมัติในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 นี้
ในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ดังกล่าว DR ได้แจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทราบในวาระที่ 1 ว่า ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยในวันที่ 15 กันยายน 2566 ได้ และขอเลื่อนการชำระดอกเบี้ยงวดดังกล่าวเป็นภายในวันที่ 28 กันยายน 2566
ซึ่งบริษัทได้แจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้ทราบว่า บริษัทในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มีสิทธิและหน้าที่ตามข้อกำหนดสิทธิในการติดตามทวงถามการชำระหนี้ค่าไถ่ถอนหุ้นกู้ แม้ว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติผ่อนผันให้ผู้ออกหุ้นกู้เลื่อนการชำระดอกเบี้ยไปชำระในวันที่ 15 กันยายน 2566 แล้ว แต่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระเงินภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว การผิดนัดชำระหนี้ยังมีผลอยู่
ขีดเส้น 60 วัน ฟ้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด
และบริษัทยังคงมีหน้าที่จะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดสิทธิในการเรียกให้หุ้นกู้ผิดนัดและบอกกล่าวบังคับจำนองต่อไป โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการดำเนินการบอกกล่าวบังคับจำนองกับผู้ออกหุ้นกู้ โดยเรียกร้องให้ผู้ออกหุ้นกู้ชำระเงินค่าไถ่ถอนหุ้นกู้ภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่ผู้ออกหุ้นกู้ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าว
หรือถือว่าได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว หากครบกำหนดระยะเวลา 60 วันแล้ว และผู้ออกหุ้นกู้ยังไม่ได้ดำเนินการชำระหนี้ค่าไถ่ถอนหุ้นกู้ บริษัทจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ออกหุ้นกู้เพื่อบังคับเอากับหลักประกันหุ้นกู้ขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้หุ้นกู้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกรายตามที่ได้รับอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ต่อไป
อย่างไรก็ตามในระหว่างการดำเนินการของบริษัท ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ในการติดตามทวงถามการชำระหนี้ค่าไถ่ถอนหุ้นกู้จากผู้ออกหุ้นกู้ ตลอดจนฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ออกหุ้นกู้ก็ไม่ถือเป็นการตัดสิทธิผู้ออกหุ้นกู้ในฐานะลูกหนี้ที่จะชำระดอกเบี้ย และเงินต้นหุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย โดยหากผู้ออกหุ้นกู้สามารถชำระเงินต้นหุ้นกู้ ดอกเบี้ยคงค้างและดอกเบี้ยผิดนัดได้ครบถ้วนก็จะทำให้หนี้หุ้นกู้ระงับสิ้นไป
ยืดจ่ายหนี้เป็น 28 ก.ย.
นางสาวนางสาวศิรินารถ อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามวาระที่ 1 ของหุ้นกู้รุ่น DR212A จริง ๆ ครบกำหนดชำระดอกเบี้ยไปตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 2566 แล้ว แต่ไม่สามารถชำระได้ โดยให้เงื่อนไขว่าขอเลื่อนชำระหนี้ไปอีก 1 เดือน คือเป็นวันที่ 15 ก.ย. 2566 เพียงแต่มาเรียกขออนุมัติประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ก่อนหน้านั้นเพียงแค่ 1 วัน คือในวันที่ 14 ก.ย. 2566
ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ มีมติอนุมัติยกเว้นเหตุผิดนัดแบบมีเงื่อนไข หากวันที่ 15 ก.ย. 2566 จ่ายหนี้ไม่ได้ มติที่ประชุมที่เคยยกเว้นให้ ก็จะถือเป็นโมฆะทันที ซึ่ง DR ก็ได้แจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทราบว่าเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยได้
ทาง บล.ดาโอ ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จึงเรียกให้หุ้นกู้ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call default) หลังจากที่เลื่อนมาให้แล้ว 1 เดือน รวมจำนวนเงินต้น 557 ล้านบาท และดอกเบี้ย 9.55 ล้านบาท
นอกจากนี้ บล.ดาโอ ได้ยื่นหนังสือแจ้งให้ DR ทราบเพื่อให้ชำระหนี้ภายใน 60 วัน เพราะหุ้นกู้รุ่น DR212A มีหลักประกัน ซึ่งจะต้องทำตามเงื่อนไขข้อกำหนดสิทธิ ที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าผู้ออกหุ้นกู้ 60 วัน หากทาง DR ไม่ดำเนินการจ่ายหนี้ ถึงจะสามารถดำเนินการฟ้องศาลเพื่อยึดหลักประกันขายทอดตลาดได้ ทั้งนี้ทาง DR ได้ขอเลื่อนการชำระดอกเบี้ยงวดดังกล่าวเป็นภายในวันที่ 28 ก.ย. 2566 เพื่อเอาประกันไปบังคับขายและมาจ่ายหนี้หุ้นกู้
ผิดนัดไขว้ มูลหนี้รวม 1.2 พันล้าน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้รุ่น DR212A ของ บริษัท เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ จำกัด ส่งผลให้เกิดการผิดนัดไขว้ (Cross default) อีกจำนวน 1 รุ่น นั่นคือ หุ้นกู้รุ่น DR20DA ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 17 ธ.ค. 2566 มีจำนวนเงินต้นรวม 653 ล้านบาท และดอกเบี้ย 11.23 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อรวมหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้ 2 รุ่น มูลค่าหนี้คงค้างรวม 1,230.78 ล้านบาท
ซึ่งปัจจุบันถือว่าเข้าเงื่อนไข Cross default ไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ บล.ดาโอ ยังไม่แจ้งไปกับผู้ออกหุ้นกู้ คาดเดาว่าวันนี้ (19 ก.ย. 2566) จะครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้รุ่น DR20DA ดังนั้นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้น่าจะรอดูเพื่อดำเนินการอีกที
อนึ่ง “บริษัท เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ จำกัด” เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมระดับพรีเมี่ยมในโรงแรมชื่อดังระดับ 4-5 ดาว ซึ่งโรงแรมจะตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย บริษัทเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่ม Accor Group และ Starwood Hotels & Resort ในการบริหารโรงแรม โดยเน้นการเข้าซื้อกิจการโรงแรม พัฒนาโรงแรม และขายโรงแรมหากมีผู้ซื้อที่สนใจ
โดยข้อมูลตามไฟลิ่งที่ยื่น ก.ล.ต. พบว่า บริษัท เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ จำกัด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 8,873.51 ล้านบาท ลดลงจากปี 2560 จำนวน 3,476.82 ล้านบาท หรือลดลง 28.15%
โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนที่ชำระแล้วจำนวน 6,875 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปี 2560 แบ่งออกเป็น หุ้นบุริมสิทธิจำนวน 33,687,500 หุ้น และหุ้นสามัญจำนวน 35,062,500 หุ้น บริษัทมีขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 690.24 ล้านบาท ตามผลประกอบการของบริษัทที่ขาดทุน 879.07 ส้นบาท
นอกจากนั้นบริษัทมีองค์ประกอบอื่นของส่วนของเจ้าของ ลดลง 2,786.58 ล้านบาท เนื่องจากการกลับรายการของส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ในส่วนของร้านอาหารที่ได้ขายไปให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้องค์ประกอบอื่นของส่วนของเจ้าของประกอบด้วยส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ กำไรขาดทุนทางคณิตศาสตร์ประกันภัยจากผลประโยชน์พนักงาน