
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เดินหน้าส่งเสริม “ความยั่งยืน” ประกาศเป็นกลยุทธ์หลัก พร้อมเดินตาม CIMB Group เพิ่มเป้าหมายเงินส่งเสริมความยั่งยืนเป็น 1 แสนล้านริงกิต หรือ 7.7 แสนล้านบาท ภายใน ปี 2567
วันที่ 25 กันยายน 2566 นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวในงานสัมมนา The Cooler Earth Summit : Sustainability Conference 2023 Thailand หัวข้อ “เปลี่ยนผ่านธุรกิจเพื่อโลกที่ดีกว่า” จัดขึ้นแบบ hybrid ที่ UNCC พร้อม LIVE สด วันที่ 18 ก.ย.66
- ครม.เคาะแล้ว ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท เริ่ม 1 ม.ค. 67
- MOTOR EXPO 5 วัน ค่ายอีวี BYD ลุ้นแซงโตโยต้า ขึ้นผู้นำขายสูงสุด
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
นายพอลกล่าวว่า เพื่อให้พวกเราอยู่รอดได้ ท่ามกลางปัญหาสิ่งแวดล้อมอันท้าทายและซับซ้อน เราทุกคนต้องมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนอย่างแข็งขัน ตั้งรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมา ปี 2566 มนุษย์พบความท้าทาย ปัญหาทางเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม VUCA ทั่วโลก เหตุการณ์ภัยพิบัติทางสภาพอากาศมากมาย ความร้อนแผดเผาครอบคลุมหลายพื้นที่ของยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ ฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ในฮ่องกง
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ที่น่ายินดีคือ เราเห็นคนคำนึงถึงความยั่งยืนในชีวิตประจำวันมากขึ้น ธนาคารในฐานะภาคธุรกิจ จำเป็นต้องให้แน่ใจว่าเราตอบสนองความต้องการและการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และในฐานะธนาคารมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงชุมชนและสังคม เราแค่ดำเนินธุรกิจตามวิถีความยั่งยืนไม่พอ แต่ต้องมีส่วนผลักดันให้ผู้อื่นทำเช่นกัน
หลักการสำคัญที่ CIMB Thai กำหนดเป็นวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า ได้แก่
1.ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงคำศัพท์ แต่เป็นกลยุทธ์หลักของธุรกิจ ได้ฝังอยู่ใน DNA ของชาว CIMB Thai ภาคการเงินมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรเงินทุนเพื่อสนับสนุนและการสร้างวิสาหกิจที่ยั่งยืน ใน TCE Summit
ล่าสุดที่มาเลเซีย กลุ่มซีไอเอ็มบี ได้ตั้งเป้าหมายขยายวงเงินส่งเสริมด้าน Sustainability ไว้ที่ 1 แสนล้านริงกิต (ประมาณ 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) หลังจากบรรลุเป้าหมาย 3 หมื่นล้านริงกิต (ประมาณ 143 ล้านเหรียญสหรัฐ เร็วกว่ากำหนดถึง 2 ปี
สะท้อนว่ากลุ่มซีไอเอ็มบีมุ่งมั่น แน่วแน่ ในการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการและความคิดริเริ่มที่ส่งเสริมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
โดย CIMB Group ประกาศเพิ่มเป้าหมายเงินส่งเสริมความยั่งยืนเป็น 1 แสนล้านริงกิต หรือ 7.7 แสนล้านบาท ภายใน ปี 2567
สำหรับ CIMB Group ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงส่วนเสริม แต่เป็นรากฐานเพื่อสร้างและเตรียมพร้อมเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
2.การขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนและการเปลี่ยนแปลงที่ยุติธรรม CIMB ขับเคลื่อนองค์กรด้วยวัตถุประสงค์ชัดเจน เราพยายามอย่างมากที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คน และต้องให้มั่นใจว่าผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่ของธุรกิจเราเคารพสิทธิมนุษยชน
ปี 2566 ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นหนึ่งในธนาคารไม่กี่แห่งในประเทศไทย ที่ได้พัฒนานโยบายด้านสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุม นอกจากนี้ยังตรวจสอบสถานะผู้ที่อยู่ในซัพพลายเชน จากผู้ขายไปจนถึงระดับลูกค้า ให้มั่นใจว่าผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิมนุษยชนต้องลดลง การประชุม TCE Summit ครั้งที่ 4 ของ CIMB เมื่อปี 2565 หัวข้อ ‘Facilitating a Just Transition’ วัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวเรื่องนี้
ส่วนการประชุมวันนี้ มีผู้แทนพิเศษจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) มาแบ่งปัน ว่าเราจะสามารถเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ยุติธรรมสำหรับทุกคนได้อย่างไร การพัฒนาทักษะสีเขียว (Green Skills) และงานสีเขียว (Green Jobs) การสร้างเศรษฐกิจสีเขียวที่สมดุลกันระหว่างผู้คนและโลก
3. ร่วมมือกันเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก ความยั่งยืนเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน เรามักมองหาความร่วมมือกับองค์กร หน่วยงานภาครัฐ และประชาชนที่มีใจเดียวกัน เพื่อขยายพลังของความเปลี่ยนแปลง เพราะไม่มีใคร หน่วยงานไหน แก้ปัญหาได้เพียงลำพัง ร่วมมือกันเราก็ทำได้ สร้างประโยชน์ให้เกิดกับทุกคน
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม CIMB เราส่งเสริมกรอบความคิดในการทำงานร่วมกันในบุคลากรของเรา ส่วนหนึ่งของค่านิยมภายในชื่อ ‘EPICC’ ตัวอย่างสำคัญ ของการรวมพลังคือ โครงการ ‘Run to Win’ พนักงาน CIMB Thai และบริษัทในเครือวิ่งสะสมระยะเพื่อระดมทุนบริจาคให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว สิ่งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างกำไรให้ธนาคาร แต่ร่วมแรงร่วมใจทำเพื่อสังคม
“ผมอยากเน้นย้ำว่าความยั่งยืนไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ต้องทุ่มเท มีวิสัยทัศน์ และเต็มใจที่จะปรับตัวสู่ความท้าทายใหม่ ๆ หากร่วมมือกัน เราจะพลิกธุรกิจให้ดีขึ้นได้ ให้พรุ่งนี้มีความเท่าเทียม ยืดหยุ่น และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ผมขอฝากถ้อยคำของมหาตมะ คานธี ‘The future depends on what you do today.’ อนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณทำวันนี้ ขอให้พวกเราคว้าโอกาสนี้ สร้างอนาคตที่สดใสด้วยกัน” นายพอล วอง กล่าวทิ้งท้าย