
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.00-36.65 บาทต่อดอลลาร์ ระบุตลาดติดตามตัวเลขจีดีพี-เงินเฟ้อสหรัฐฯ คาดเฟดคงดอกเบี้ย ที่ 5.25-5.50% ในรอบประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ พร้อมเกาะติดสงครามกลุ่มฮามาส-อิสราเอล
วันที่ 24 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.00-36.65 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.47 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 36.20-36.55 บาทต่อดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับเงินยูโร แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ครม.เคาะแล้ว ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท เริ่ม 1 ม.ค. 67
- MOTOR EXPO 5 วัน ค่ายอีวี BYD ลุ้นแซงโตโยต้า ขึ้นผู้นำขายสูงสุด
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อต่อไป อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่าการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ทำให้ภาวะการเงินตึงตัวและอาจส่งผลให้เฟดมีความจำเป็นน้อยลงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับสัญญาณจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในช่วงนี้
โดยในภาพรวมประธานเฟดยังคงแบ่งรับแบ่งสู้ และเปิดโอกาสสำหรับการที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่แน่นอนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสงครามระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 4,053 ล้านบาท และ 9,847 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3 และราคาค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคล (เงินเฟ้อ PCE) เดือน ก.ย. ของสหรัฐ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังมากขึ้นขณะที่บอนด์ยิลด์ระยะ 10 ปีทะยานขึ้นกว่า 50bps นับตั้งแต่การประชุม FOMC เมื่อเดือน ก.ย. ทางด้านตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่ามีโอกาสราว 98% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. และมีความน่าจะเป็น 25% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.00% ในการประชุมวันที่ 26 ต.ค. โดยจุดสนใจหลักจะอยู่ที่การประเมินว่าอีซีบีให้ความสำคัญกับภาวะทางการเงินในการตัดสินใจกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการลดขนาดงบดุลของอีซีบีมากน้อยเพียงใดหลังบอนด์ยิลด์ระยะยาวของยูโรโซนพุ่งขึ้นในช่วงนี้เช่นกัน
สำหรับประเด็นในประเทศ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการค้าเดือน ก.ย. ส่งออกขยายตัวผิดคาด ส่วนทิศทางกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายยังคงขึ้นอยู่กับภาวะตลาดพันธบัตรสหรัฐ รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการ Digital Wallet เป็นสำคัญ โดยเราคาดว่าเงินบาทอาจแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า