
ธนาคารกรุงเทพ เผยกำลังทำแผนธุรกิจปี 2567 คาดสินเชื่อโตดีกว่าปี 2566 หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวชัด-การลงทุนปรับดีขึ้น หนี้เสียยังอยู่ในวิสัยบริหารได้ ยันพัฒนาระบบไอทีต่อเนื่องรับกระแสดิจิทัลแบงกิ้ง อัดงบฯลงทุนเทคโนโลยีเฉลี่ย 4-6 พันล้านบาทต่อปี
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการรวบรวมตัวเลขเพื่อทำแผนธุรกิจในปี 2567 อย่างไรก็ดี ภาพรวมการเติบโตยังคงสอดคล้องไปตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งสามารถขยายตัวไปได้อย่างมั่นคง และคาดว่าน่าจะขยายตัวได้ดีกว่าในปี 2566 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น และแผนการขยายการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นจะเป็นปัจจัยเข้ามาสนับสนุน
โดยเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปี 2566 อยู่ในกรอบ 4-6% ขณะที่ภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีการปรับขึ้นและลงไปตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่ยังคงอยู่ในระดับบริหารจัดการได้
สำหรับกรณีที่มีธนาคารหลายแห่งทยอยปรับระบบการทำงานหลัก (Core Banking) เพื่อรองรับดิจิทัลแบงกิ้ง นั้น มองว่า ในส่วนของธนาคารมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นไปตามแผนที่ธนาคารวางไว้เช่นกัน รวมถึงมีการลงทุนทางด้านระบบเทคโนโลยีและไอทีอย่างต่อเนื่อง
“แผนปี 2567 กำลังรวบรวมแผนการเติบโตอยู่ แต่โดยรวมน่าจะดีขึ้น ส่วนระบบ Core Banking ของเราก็มีการปรับเรื่อย ๆ ซึ่งงบฯลงทุนก็ลงทุนไปเรื่อย ๆ เพราะงบฯนี้ไม่ได้เป็นการลงทุนครั้งเดียวแล้วจบ”
นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้รับผิดชอบกิจการธนาคารต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า แนวโน้มทางด้านดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ธนาคารได้มีการพัฒนาระบบทางด้านเทคโนโลยีและไอทีอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เม็ดเงินลงทุนมาอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 4,000-6,000 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นการลงทุนมาหลายปี
ประกอบกับการเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตาของอินโดนีเซียที่มีความแข็งแกร่ง ทางด้านดิจิทัลแบงกิ้ง ทำให้ธนาคารได้มีการพิจารณานำโมเดลหรือจุดเด่นเข้ามาพัฒนาใช้กับธนาคารกรุงเทพ โดยเป็นการสร้างระบบนิเวศการให้บริการของธนาคารเข้าไปฝั่งอยู่บนไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและเชื่อมระบบการชำระเงินได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเป็นสิ่งที่ธนาคารกำลังดำเนินการอยู่