บล.โกลเบล็กชี้ 3 ปัจจัยทุบราคาทองคำร่วงแรงช่วงนี้ “สงครามชะลอ-เฟดส่อยุติขึ้นดอกเบี้ย-ดอลลาร์แข็ง” คาดแนวโน้มราคาซึมต่อเนื่อง ขณะที่ทองในประเทศปรับลงแล้ว 1,200 บาทในช่วง 9 วันแรกของเดือน พ.ย.
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาทองคำตกลงมา จากปัจจัยเรื่องสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสเป็นหลัก เพราะหากสงครามไม่ได้ขยายวงรุนแรง ทองก็มีโอกาสขึ้นได้ยาก ซึ่งคาดว่าแนวโน้มสงครามจะไม่ขยายวงกว้าง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็นอีกปัจจัยกดดันราคาทองคำ รวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ระบุถึงการปรับอัตราขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งตลาดมองว่า อาจยุติการขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้น จากปัจจัยเหล่านี้ ราคาทองคำก็น่าจะซึม ๆ
“เราให้กรอบทองคำ Spot ที่ 1,930-1,970 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ส่วนทองในประเทศให้กรอบแนวรับที่ 32,500 บาท ส่วนแนวต้านที่ 32,900 บาท เนื่องจากช่วงนี้ค่าเงินบาทแข็ง จึงเป็นปัจจัยกดดันราคา”
ทั้งนี้ ช่วงนี้แนะนำนักลงทุนที่มีสถานะดีดใกล้แนวต้าน ให้หาจังหวะออกขายก่อน โดยสัปดาห์หน้า ต้องจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐ เพื่อดูสัญญาณเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ย ถ้า CPI ออกมาทรงตัวในระดับสูง ราคาทองก็จะสามารถดีดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาทองคำล่าสุดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ณ วันที่ 9 พ.ย. 2566 ประกาศครั้งที่ 3 ทองแท่งในประเทศขายออกอยู่ที่ 32,800 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 33,300 บาท ทั้งนี้ ในเดือน พ.ย.นี้ ราคาทองในประเทศปรับลดลงแล้ว 1,200 บาท จากเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 ที่ทองแท่งในประเทศขายออกอยู่ที่ 34,000 บาท และทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 34,500 บาท ในการประกาศราคาครั้งแรก