กสิกรไทย ยันไม่ปิดโอกาสพันธมิตรร่วมธุรกิจ บลจ.กสิกรไทย ปัดยังไม่มีดีลขายหุ้น

ขัตติยา อินทรวิชัย
ขัตติยา อินทรวิชัย

กสิกรไทย ยันไม่มีดีลขายหุ้น “บลจ.กสิกรไทย” แต่ไม่ปิดโอกาส แต่อยากเห็นในรูปแบบ “พันธมิตร” ทำธุรกิจร่วมกัน มั่นใจมีโอกาสเติบโตสูง เปรยเนื้อหอมหลังมีคนสนใจ 2-3 ราย

วันที่ 22 ธันวาคม 2566 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่ธนาคารจะขายหุ้นของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ KAsset ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจในกลุ่มธนาคารให้กับพันธมิตรออกมาเป็นระยะ ๆ ในช่วงที่ผ่านมานั้น

ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว ธนาคารขอยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินใจขายหุ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่ได้ปิดกั้นหรือปิดโอกาสหากมีผู้สนใจที่จะเข้ามาลงทุน แต่การพิจารณาจะเป็นไปอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธนาคาร และ บลจ.กสิกรไทย รวมถึงผู้ถือหุ้น

อย่างไรก็ดี แนวทางการเติบโตของ “บลจ.กสิกรไทย” อาจจะไม่จำเป็นต้องการขายหุ้น หรือให้นักลงทุนรายใหม่เข้ามา เนื่องจากหากดูส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ปัจจุบัน ถือว่าค่อนข้างใหญ่เป็นอันดับ 1-2 ในธุรกิจจัดการกองทุน ดังนั้น หากมองไปข้างหน้ายังถือว่ามีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตได้ ซึ่งไม่เฉพาะแค่ในประเทศ แต่อาจจะขยายฐานลูกค้าในระดับภูมิภาคได้เช่นกัน

ดังนั้น รูปแบบการเติบโตในลักษณะพันธมิตร (Partner) น่าจะเป็นแนวทางที่ดีกว่าในรูปแบบการขายหุ้นออกไป ซึ่งความร่วมมือจะทำให้ผู้บริโภคหรือนักลงทุนมีทางเลือกดีที่ขึ้นในอนาคต ซึ่งแตกต่างจากการขายหุ้นหรือถือหุ้น เนื่องจากการเข้ามาถือหุ้นจะสามารถดำเนินการได้เพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่งรายที่เข้ามาจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและนักลงทุนได้ครอบคลุม

ทั้งนี้ หากถามว่าสิ่งที่พันธมิตรได้จากการเข้ามาร่วมทำธุรกิจนั้น คือ การมีเครือข่ายที่กว้างขวางมากขึ้น (Distribution Network) ทั้งจากทีมงาน และฐานลูกค้าที่ปัจจุบันมีกว่า 20 ล้านราย มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้

“วันนี้ บลจ.กสิกรไทย ถือว่าใหญ่ และเป็นผู้นำในตลาดธุรกิจจัดการกองทุน กองทุนรวม และมีมาร์เก็ตแชร์คิดเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของตลาด ดังนั้นการเติบโตในระยะข้างหน้า ยังมองว่า มีศักยภาพ และสามารถไปต่อได้ และวันนี้เราเนื้อหอมพอสมควร มีพาร์ตเนอร์ธุรกิจทยอยเข้ามาหารือแล้ว 2-3 ราย ซึ่งเรามองว่า รูปแบบนี้ จะช่วยเสริมธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน”