
ก.ล.ต. จ่อปรับเกณฑ์ใหม่ของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน เพิ่มเกณฑ์ “กำไร-ส่วนผู้ถือหุ้น” ในธุรกิจที่เข้าจดทะเบียนในตลาด ทั้ง SET-mai หวังยกระดับคุณภาพ-สร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2568
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประกาศแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อถือ (Trust & Confidence) ให้กลับมาสู่ตลาดทุนไทยโดยเร็ว เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา บอร์ด ก.ล.ต. ก็ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อยกระดับคุณภาพของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนทั้งองคาพยพตามที่ตลาดหลักทรัพย์เสนอไปแล้ว
ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการป้องกัน โดยจะมีการปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่กำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ซึ่งจะมีการปรับเกณฑ์พิจารณาฐานะการเงินและผลประกอบการ รวมทั้งความมั่นคงของบริษัทในมิติต่าง ๆ
สำหรับเกณฑ์ใหม่เข้า SET กำหนดจะต้องมีกำไรมากกว่า 75 ล้านบาท (เดิม 30 ล้านบาท) mai มากกว่า 25 ล้านบาท (เดิม 10 ล้านบาท) และกำไร 2-3 ปีล่าสุดเข้า SET ต้องมีมากกว่า 125 ล้านบาท (เดิม 50 ล้านบาท) mai มากกว่า 40 ล้านบาท (เดิมไม่กำหนด)
ขณะเดียวกันสำหรับ SET ต้องมีส่วนผู้ถือหุ้นหลัง IPO มากกว่า 800 ล้านบาท (เดิม 300 ล้านบาท) และมากกว่า 100 ล้านบาท (เดิม 50 ล้านบาท) สำหรับ mai ขณะที่ทุนชำระแล้วหลัง IPO ในการเข้า SET ปรับลดเหลือ 100 ล้านบาท (เดิม 300 ล้านบาท) ส่วน mai กำหนดไว้ที่มากกว่า 50 ล้านบาท ทั้งนี้กำหนดให้เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2568
“เกณฑ์ใหม่เข้าไอพีโอ ผ่านการเฮียริ่งหมดแล้ว ซึ่งทุกภาคส่วนรับทราบกันแล้ว อย่างไรก็ตามคงจะมีผลกระทบบ้างกับบริษัทที่ยังไม่สามารถทำตามเกณฑ์นี้ได้ แต่เชื่อว่าถ้าแลกกับบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพ ก็น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจในตลาดทุนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็ถือว่าคุ้ม”
นอกจากนี้ยังมีการ ปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อทำให้กระบวนการพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทที่จะจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) และการย้ายกลับมาซื้อขาย (Resume Trade) มีความเข้มข้นเทียบเท่ากับการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อยกระดับการแจ้งเตือนผู้ลงทุน และการเพิกถอนบริษัทที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยมีผลบังคับใช้ วันที่ 1 เมษายน 2567
รวมถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นและผู้ถือหน่วยสำหรับบริษัทจดทะเบียน ทรัสต์ และกองทุนต่าง ๆ ที่จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างการทบทวนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น ปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญ (MT) และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (RPT) เพื่อกำหนดหน้าที่ให้บริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนให้ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เพื่อกำหนดให้ต้องยื่นงบการเงินย้อนหลัง 3 ปีล่าสุดที่ผ่านการตรวจสอบและเป็นไปตามมาตรฐานการจัดทำรายงานทางการเงิน Publicly Accountable Entities (PAE) เริ่มบังคับใช้แล้ว สำหรับบริษัทที่จะขอยื่นเสนอขายหุ้น IPO ในปี 2567