เปิดคำแถลงต่อศาล “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” รับไว้วางใจคนผิด ยันไม่สู้คดีหุ้นกู้ STARK

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้

เปิดคำแถลง “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ยันไม่สู้คดีหุ้นกู้ STARK หวังรีบนำทรัพย์สินที่เหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้เสียหาย รับเสียใจ-ไว้วางใจคนผิด-ยืนยันตนเองไม่ได้กระทำผิด โอด “ครอบครัว-พนักงานระดับล่าง” ไม่เกี่ยวข้อง วอนเห็นใจ หวัง DSI นำตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงมาลงโทษ ระบุเงิน 8,000 ล้านซุกอยู่กับใครคนนั้นต้องรับผิดชอบ

วันที่ 29 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ณ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีผู้เสียหายจากหุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) เดินทางมารับฟังการไต่สวนคดีเพื่อขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ที่ได้ยื่นฟ้องแพ่งผู้บริหาร STARK รวมทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย

1.นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 2.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ 3.นายชินวัฒน์ อัศวโภคี 4.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ และ 5.นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม

ในข้อหาชี้ชวนซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ไปตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2566 และได้มีการเลื่อนการไต่สวนเรื่อยมา จนมาถึงวันที่ 29 มกราคม 2567 ขณะที่ทนายของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กำลังซักค้านพยานโจทก์อยู่นั้น นายวนรัชน์ ตั้งคารวคุณ เดินทางมาที่ศาลและอ่านแถลงการณ์ดังกล่าว ในช่วงบ่ายทนายจำเลยที่เหลือจะทำการซักค้านพยานโจทก์ต่อไปจนถึง 16.30 น.

โดยนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ได้แถลงต่อศาล ระบุว่า ขอกราบเรียนต่อศาลที่เคารพว่า ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกลุ่มสตาร์ค แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดก็ตาม แต่ก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถดูแลในรายละเอียดของการบริหารจัดการได้ ซ้ำยังไว้วางใจคนผิดจนทำให้เกิดการผิดพลาดและการทุจริตขึ้นในบริษัทสตาร์คและกลุ่มสตาร์ค

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสตาร์คนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของผมไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัว และผมยังเห็นว่ากรรมการท่านอื่นไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งพนักงานระดับล่าง ซึ่งถูกล่อลวง หรือบีบคั้นจนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้กระทำการทุจริต ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ควรได้รับความเห็นใจและไม่สมควรที่ต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทำความผิดที่ได้สั่งการให้กระทำด้วย

ADVERTISMENT

ผมสามารถรับรู้ได้ถึงความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยที่ต้องมาร่วมรับเคราะห์กรรมในครั้งนี้ด้วย ผมจึงใคร่ขอความกรุณาศาลโปรดเร่งกระบวนการพิจารณาคดีนี้โดยเร็ว และได้กำชับทนายความของผมไม่ต้องสู้คดีนี้ ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้รีบนำทรัพย์สินของผมที่เหลืออยู่ไปบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้เสียหาย

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ผมในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทสตาร์คจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อประโยชน์ของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อย หรือจนกว่ากลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยจะได้รับการเยียวยาจนเสร็จสิ้น โดยในเบื้องต้นผมจะทำหนังสือแสดงเจตนาของผมส่งไปยังคณะกรรมการบริษัทสตาร์ค ขอให้เร่งยุติกระบวนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ถือหุ้นโดยเร็วที่สุด

โดยยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้กลุ่มผู้ถือหุ้นผู้ได้รับสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมายอย่างเต็มที่ในการบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของสตาร์ค อันได้แก่ หุ้นและสิทธิเรียกร้องเงินกู้ที่สตาร์คได้ให้บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กู้ยืมไปเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท เพราะหากเวลาเนินช้าออกไปแล้ว กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ เพราะบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กำลังเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ

ซึ่งหมายถึงการถูกบังคับจากเจ้าหนี้รายใหญ่ให้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดยอดหนี้ส่วนนี้ลงในอนาดตอันใกล้นี้

บัดนี้ความจริงปรากฏชัดในระดับหนึ่งแล้วว่า เงินจากการทุจริตจำนวน 8,000 ล้านบาท ถูกนำไปซุกซ่อนที่ประเทศอังกฤษส่วนหนึ่ง และอีกจำนวนหนึ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจพบว่าอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด ซึ่งเงินทุจริตอยู่ที่ใคร คนนั้นจะต้องรับผิดชอบ

ผมได้แต่หวังว่าหน่วยงานของรัฐจะสามารถเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด และสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องลงโทษได้ในที่สุด ส่วนตัวของผมจะต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมอะไรบ้างก็ขอให้โชคชะตาเป็นผู้กำหนด

แหล่งข่าวเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้รายย่อยกล่าวว่า บรรยากาศหน้าศาลวันนี้มีจำนวนเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้รายย่อยจำนวนมากไปรวมตัวเพื่อขอความยุติธรรมต่อศาล ให้โปรดพิจารณารับเป็น Class Action เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นกู้ ขณะเดียวกัน มีรายงานอีกว่า ช่วงแถลงต่อศาลของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ มีการร้องไห้สะอื้นออกมา