สุกี้ ตี๋น้อย ปี’66 กำไรเกือบพันล้าน JMART รับส่วนแบ่ง 274 ล้าน

สุกี้ตี๋น้อย

สุกี้ ตี๋น้อย ปี 2566 โกยกำไร 913 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งจากการถือหุ้น 30% จำนวน 274 ล้านบาท ปีที่แล้วขยายสาขาไปทั้งหมด 13 แห่ง

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลงบการเงินของ บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ในปี 2566 ที่ประกาศออกมา มีผลขาดทุน 447 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจำนวน 843 ล้านบาท JMART จะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 396 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามที่ JMART ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด หรือ “สุกี้ ตี๋น้อย-Suki Teenoi ที่สัดส่วนถือหุ้น 30%

ในรายงานงบการเงินพบว่า ปี 2566 ทาง JMART ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น “สุกี้ ตี๋น้อย” จำนวน 274 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิรวม 913 ล้านบาท ไม่รวมการปันส่วนราคาซื้อ (PPA) และได้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับกลุ่มบริษัทเจมาร์ท เช่น การนำคะแนนสะสมแลกเป็นค่าบุฟเฟต์ตามที่กำหนด เป็นต้น

โดยปัจจุบัน “สุกี้ ตี๋น้อย” มีสาขารวมทั้งหมด 55 สาขา (ณ สิ้นเดือน ธันวาคม 2566) โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา “สุกี้ตี๋น้อย” ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 13 สาขา โดยสาขาที่เปิดเพิ่มมีส่วนหนึ่งที่ได้เริ่มขยายออกไปต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี สุพรรณบุรี และนครราชสีมา เป็นต้น

ซึ่งเป็นทำเลที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น ด้วยแนวคิดของการให้บริการที่เข้าถึงความต้องของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี

ADVERTISMENT