หุ้น-การเงิน

คลัง ปลื้ม บอนด์ออมทรัพย์ ประชาชนตอบรับดี เเนะวิธีซื้อเพิ่มอีก 2.5 หมื่นล้าน

การกระทรวงการคลัง

กระทรวงการคลังปลื้ม ประชาชนตอบรับพันธบัตรออมทรัพย์บนวอลเลต สบม. วงเงิน 10,000 ล้านบาทเป็นอย่างมาก ลอตต่อไปขายผ่าน 4 แบงก์ ยันจัดสรรแบบ Small Lot First อีก 25,000 ล้าน เริ่ม 11 มี.ค.นี้

วันที่ 6 มีนาคม 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้จำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ บนวอลเลต สบม.ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 1 วงเงิน 10,000 ล้านบาท เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน

โดยวอลเลต สบม.บนแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง นับเป็นช่องทางการออมการลงทุนที่ประชาชนทุกท่านสามารถเข้าถึงได้จากทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียมกันผ่านระบบดิจิทัล และสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศผ่านตลาดตราสารหนี้ในประเทศ

กระทรวงการคลังจึงขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ให้ความสนใจลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์บนวอลเลต สบม.ในครั้งนี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์อีกครั้ง วงเงิน 30,000 ล้านบาท ผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ดังนี้

1.การจำหน่ายให้แก่ประชาชน จะเริ่มจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 11-13 มีนาคม 2567 วงเงิน 25,000 ล้านบาท 2 รุ่นอายุ ได้แก่ รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.40 ต่อปี และไม่จำกัดวงเงินจองซื้อ โดยประชาชนสามารถมาจองซื้อได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 น. ของวันที่ 11 มีนาคม 2567 จนถึงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 13 มีนาคม 2567

และ สบน.จะจัดสรรแบบ Small Lot First ในวันที่ 14 มีนาคม 2567 ซึ่งผู้จองซื้อทุกท่านจะได้รับจัดสรรพันธบัตรออมทรัพย์อย่างทั่วถึง โดยขอให้จองซื้อภายในช่วงเวลาดังกล่าว

2.การจำหน่ายให้แก่นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรที่กระทรวงการคลังกำหนด จะเริ่มซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 18-19 มีนาคม 2567 วงเงิน 5,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี และไม่จำกัดวงเงินซื้อ โดย สบน.จะจัดสรรแบบ First-come, First-served

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 1 สามารถสอบถามเงื่อนไขและวิธีการจัดจำหน่ายได้ที่ธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง หรือติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ