จิตตะ เวลธ์ ชี้หุ้นจีน-ฮ่องกงเด่น ชูลงทุนด้วย AI ผลตอบแทนเหนือตลาด

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์

บลจ.จิตตะ เวลธ์ ชี้โอกาสลงทุนตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง มุ่งพัฒนา AI เพื่อลงทุนให้ครอบคลุมทุกมิติ บริหารกองทุนส่วนบุคคลอัตโนมัติที่มากถึง 6.8 หมื่นพอร์ต มากที่สุดในประเทศ พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์ม Jitta Card จ่าย-ออม-ลงทุน-ได้อัตโนมัติ แห่งแรกของเอเชีย

วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนสามารถฟื้นตัวได้จริงตามที่ได้คาดการณ์ไว้ ผลตอบแทน (YTD) ของ Jitta Ranking ประเทศจีนเป็นอันดับ 1 จาก 115 กองทุนจีนในไทย

โดย Jitta Ranking หุ้นจีนเพิ่มขึ้น 21.02% และ Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน เพิ่มขึ้น 21.16% เทียบกับดัชนี CSI 300 ที่เพิ่มขึ้น 6.44% ขณะที่ Jitta Ranking หุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 16.30% เทียบกับดัชนี Hang Seng 5.80%

“ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี AI และการบริหารจัดการพอร์ตโดยอัตโนมัติ ทำให้จิตตะมีข้อมูลวิเคราะห์หุ้นทั่วโลก พอร์ตการลงทุนจำนวนมาก และพฤติกรรมการลงทุนเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในมิติต่าง ๆ ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา

รวมถึงอัลกอริทึมได้ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา AI เรียนรู้จากเหตุการณ์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงของตลาดหุ้น (Evidence- Based) ในทุกวัฏจักรการลงทุนมาแล้ว ทำให้สามารถพัฒนาโซลูชั่นที่จะทำให้การลงทุนมีทางเลือกและมีโอกาสมากกว่าที่ผ่านมาได้ดีที่สุด”

Advertisment

ขณะที่ตลอดช่วง 4 ปีกับ 1 ไตรมาสที่ผ่านมา พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วผลตอบแทนของ Jitta Ranking สามารถเอาชนะผลตอบแทนของกองทุนส่วนมากในประเทศได้อย่างน่าตกใจ โดย Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม สร้างผลตอบแทน 140.27% เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนาม นอกจากนี้ Jitta Ranking หุ้นสหรัฐก็สร้างผลตอบแทนได้ถึง 77.47% เป็นอันดับ 3 จากกองทุนหุ้นสหรัฐ 28 กองทุน

“จากสถิติพบว่าผลตอบแทนของกองทุนที่ Jitta Wealth ใช้ AI ในการบริหารพอร์ต เมื่อนำมาเทียบผลตอบแทนกับกองทุนอื่น ๆ แล้ว กองทุนของ Jitta Wealth สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นอันดับต้น ๆ ของกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Jitta Ranking ที่ลงทุนในประเทศต่าง ๆ หรือ Global ETF ที่กระจายการลงทุนไปทั่วโลก”

ทั้งนี้ จิตตะ พัฒนา Jitta Intel อัลกอริทึม AI เพื่อการลงทุนของจิตตะมาตลอดช่วง 12 ปีที่ผ่านมา มีการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลกว่า 1,000 ล้านชุดข้อมูลต่อวัน วิเคราะห์หุ้นกว่า 48,000 หุ้น ครอบคลุมหุ้น 90% ทั่วโลก เพื่อหาหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดของแต่ละตลาด (Jitta Ranking) ตามหลักการลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investing : VI) ที่ใช้ศาสตร์ของ ‘Quant VI’ ช่วยคัดหุ้นดีราคาถูก สร้างผลตอบแทนชนะตลาดได้ในระยะยาว

Advertisment

นอกจากนี้ จิตตะยังนำ AI มาต่อยอดกับการให้บริการกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.จิตตะ เวลธ์ ด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่มี ประกอบกับจำนวนกองทุนส่วนบุคคลกว่า 68,000 พอร์ต มากที่สุดในประเทศไทย AI ผ่านการทดสอบกว่า 12 ปี ผ่านทุกวัฏจักรการลงทุน ทั้งช่วงตลาดเติบโตและตกต่ำ และพิสูจน์ผลตอบแทนยิ่งสูงหลังวิกฤต

นอกจากนี้ จิตตะ เวลธ์ ยังนำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automated Investing) มาบริหารจัดการพอร์ตลงทุนให้กับนักลงทุนอย่างครบทุกมิติ ทั้งการบริหารความเสี่ยง การจัดสินทรัพย์ให้กระจายทั่วโลก รวมถึงการปรับพอร์ตรายบุคคลอัตโนมัติอีกด้วย จิตตะจึงถือเป็นผู้นำในการใช้ AI เพื่อการลงทุนที่แท้จริง

“AI บริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลทั้งหมด ไม่มีการแทรกแชงจากมนุษย์ ที่มีอคติและอารมณ์หวั่นไหว เรียนรู้และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นตลอดเวลา”

ไม่เพียงเท่านั้น จิตตะยังพัฒนาเทคโนโลยี AI มาเชื่อมต่อระบบนิเวศการเงินส่วนบุคคล ก้าวไปสู่แพลตฟอร์ม เพื่อการใช้จ่าย-ออม-ลงทุน ที่เรียกว่า Jitta Card เทคโนโลยีที่จะมาช่วยปลดล็อกอุปสรรคใหญ่ของคนไทยด้านพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน รวมถึงการไม่มีวินัยที่ดีพอ โดย Jitta Card ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีมาออกแบบการลงทุนขนาดเล็ก (Micro Investment) ช่วยให้ทุกการใช้จ่ายมีเงินออม และส่งไปลงทุนได้โดยอัตโนมัติ และเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเป็นแห่งแรกของเอเชียเร็ว ๆ นี้

“Jitta Card มีเป้าหมายสูงสุดในการแก้วิกฤตการเงินของคนไทย สร้างระบบนิเวศทางการเงิน เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้นในอนาคต ลดภาระของประเทศในการดูแลผู้กลุ่มสูงอายุที่มีเงินไม่พอในยามเกษียณ และสร้างวินัยการเงิน ลดภาระหนี้สินส่วนบุคคลที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 90% ของ GDP โดยมีเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้ามีผู้ใช้งาน Jitta Card จำนวน 1 ล้านคน”