
ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ธุรกิจการเงิน-ประกันภัย ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี จับมือ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้-โรงพยาบาล” ผุดเฟสแรก 100 ยูนิต โครงการซื้อสิทธิเช่า “บ้าน-คอนโดมิเนียม” ผู้สูงวัย พ่วงประกันชีวิต จ่ายเงิน 4-6 ล้านบาท อยู่ได้จนถึงอายุ 99 ปี จ่ายเบี้ยประกันครั้งเดียว 8 แสนบาท-1.1 ล้านบาท ไร้กังวลค่าส่วนกลาง-ค่ารักษาพยาบาล
วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH เปิดเผยว่า บริษัทอาคเนย์ประกันชีวิตซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท มีแผนอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการแพ็กเกจสิทธิเช่าเพื่ออยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียมและบ้าน พ่วงเข้ากับประกันชีวิต หรือที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Living) ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่กำลังจะเกษียณอายุการทำงาน (อายุ 50 ปีขึ้นไป) สามารถจะซื้อประกันและเข้ามาอยู่อาศัยในโครงการได้
โดยความคุ้มครองของประกันจะจ่ายทั้งค่าส่วนกลางต่อปีและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพื่อตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ไร้กังวล (Worry Free) สามารถอยู่อาศัยได้จนถึงอายุ 99 ปี หากเสียชีวิตก่อน จะมีเงินก้อนบางส่วนให้กับผู้รับประโยชน์ที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์
“ตอนนี้ อาคเนย์ประกันชีวิต เซ็น MOU กับพันธมิตรไปแล้วบางส่วน โดยมีดีเวลอปเปอร์คือ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ และกำลังอยู่ระหว่างจับมือกับโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมองไปถึงกรณีคนที่เกษียณอายุการทำงานและมีบ้านที่ผ่อนหมดแล้ว สนใจเข้ามาอยู่ในโครงการ บริษัทก็จะเข้าไปบริหารจัดการโดยการขายบ้านเก่าให้ด้วย เพื่อปลดภาระและนำเงินมาซื้อประกัน ตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับธนาคารพาณิชย์ 1 ราย”
โดยโครงการนี้มีแผนเจาะลูกค้าทั่วไป (Mass) ราคาคอนโดมิเนียมและบ้าน เริ่มต้นที่ 3-5 ล้านบาท ในเฟสแรกคาดว่าจะพัฒนาโครงการบ้
ลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันเพี
“โมเดลคือเราจะให้คนเข้ามาอยู่
เมื่อปีที่แล้ว TGH มีรายได้รวม 17,858 ล้านบาท มาจาก 3 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจประกันชีวิต ภายใต้บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 2.ธุรกิจประกันวินาศภัย ภายใต้ บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ 3.ธุรกิจรถให้เช่าองค์กร ภายใต้ บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด
ซึ่งอาคเนย์ประกันชีวิต เป็นธุรกิจหลักที่มีสัดส่วนรายได้ 50% อยู่ในอันดับ 11 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิต รองลงมาคือ อินทรประกันภัย มีสัดส่วนรายได้ 30% อยู่ในอันดับ 15 ของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย และมีรายได้จากอาคเนย์แคปปิตอลอีก 20% โดยเป็นบริษัทรถให้เช่าองค์กรรายใหญ่ที่สุดในประเทศ มีรถให้บริการอยู่ทั้งสิ้น 23,000 คัน
“ปัจจุบันพนักงานทุกบริษัทในกลุ่มทีซีซีมีอยู่กว่า 100,000 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าประกันกลุ่มของเราด้วย รวมถึงทำประกันรายบุคคลกับเราแล้ว 30-40%”
นายโชติพัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2567 ประกอบด้วย 1.อาคเนย์ประกันชีวิต จะต้องมีเบี้ยรับรวม 13,000 ล้านบาท 2.อินทรประกันภัย ตั้งเป้ามีเบี้ยรับรวม 6,000 ล้านบาท และ 3.อาคเนย์แคปปิตอล ต้องรักษาฐานรายได้ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท
“ธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจรถให้เช่ายังเติบโตได้ แต่ธุรกิจประกันวินาศภัยไม่โต เนื่องจากปีที่แล้วมีการรับโอนธุรกิจมาจากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย ทำให้ไซซ์ของรายได้ค่อนข้างสูง ประกอบกับบริษัทมีการตัดธุรกิจที่มีมาร์จิ้นน้อยออกไป แต่ในอนาคตมีแนวโน้มจะโตต่อไปได้ผ่านธุรกิจที่มีคุณภาพและทำกำไร”
เป้า 3 ปี มาร์เก็ตแชร์เพิ่ม
“ซีอีโอไทยกรุ๊ปฯ” กล่าวอีกว่า บริษัทยังตั้งเป้าระยะต่อไป ช่วง 3 ปีข้างหน้าด้วยว่า บริษัทอาคเนย์ประกันชีวิต จะต้องมีขนาดเบี้ยรับรวมแตะ 22,000 ล้านบาท บริษัทอินทรประกันภัย มีขนาดเบี้ยรับรวมแตะ 10,000 ล้านบาท และบริษัทอาคเนย์แคปปิตอล รักษาผู้นำตลาดอันดับ 1
“ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจประกันของเราจะอยู่ใน Position ที่มีความหมายในอุตสาหกรรม อาจจะไม่ได้เป็นที่ 1 แต่มีมาร์เก็ตแชร์ที่เหมาะสมที่ช่วยผลักดันตลาดไปได้ ส่วนธุรกิจรถให้เช่าและปล่อยสินเชื่อต้องการขยายธุรกิจ Supply Chain Financing จากเครือข่ายคู่ค้าในกลุ่ม และธุรกิจ New S-curve อาทิ ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Living) เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มความหลากหลายและโตไปได้ ช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจประกันภัยที่ต้องโตตามเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เป้าสำคัญคือทุกธุรกิจของเราต้องมีกำไร เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว”
- โชติพัฒน์ ลูกเขยเจ้าสัวเจริญ เปิดอาณาจักร “ไทยกรุ๊ปฯ” หมื่นล้าน
- เปิดอาณาจักร “ค้าปลีก” แสนล้าน ”เจ้าสัวเจริญ” ในมือลูกสาวคนเล็ก
- เจ้าสัวเจริญเผยคติที่ยึดถือ “ยิ่งให้ ยิ่งมี” เปิดใจถึงคุณหญิงวรรณา “คู่ชีวิตที่ลืมไม่ได้”
- “จุล กาญจนลักษณ์” เจ้าของสูตรลับ “แม่โขง” สู่ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ทีซีซี กับเจ้าสัวเจริญ