เจ้าสัวเจริญเผยคติที่ยึดถือ “ยิ่งให้ ยิ่งมี” เปิดใจถึงคุณหญิงวรรณา “คู่ชีวิตที่ลืมไม่ได้”

เจ้าสัวเจริญ แห่งอาณาจักรเบียร์ช้าง เผยคติพจน์สำคัญ “ยิ่งให้ ยิ่งมี” ที่ยึดถือในการทำธุรกิจและใช้ชีวิต พร้อมเล่าความในใจ “ผมโชคดีมาก ๆ ที่ได้แต่งงานกับคุณหญิงวรรณา” ในวันเปิดตัวโรงแรมอินเตอร์คอน เชียงใหม่ ที่เจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณาเข้าซื้อกิจการมาเมื่อกว่า 30 ปีก่อน

เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือ TCC Group หรือที่รู้จักกันในนาม “เจ้าสัวเบียร์ช้าง” ปรากฏตัวในงานเลี้ยงเปิดตัวโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โรงแรมภายใต้การบริหารของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC หนึ่งในธุรกิจของกลุ่ม TCC เมื่อค่ำวันที่ 20 กันยายน 2566

“ประชาชาติธุรกิจ” ร่วมงานเปิดตัว อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล นำเสนอสุนทรพจน์บางส่วนของมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของประเทศไทย ในวัย 79 ปี ตอนหนึ่งว่า

“จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่รุ่งเรืองอยู่แล้ว และจะต้องรุ่งเรืองขึ้นไปอีก เพราะว่าคืนนี้หน่วยงานราชการที่มาร่วม ไม่ว่าท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้า นายกทุกคนตั้งใจ ทำให้จังหวัดเชียงใหม่เรารุ่งเรืองอีกครั้ง มิหนำซ้ำ กงสุลหลายประเทศยังมาร่วมงาน จะสามารถนำพาสิ่งต่าง ๆ ไปสู่ประเทศของเขา เพื่อจะนำเศรษฐกิจมาเชื่อมโยงกัน ให้เกิดคุณค่าสูงส่ง”

เจ้าสัวเจริญอธิบายว่า การจะสร้างหรือจะพัฒนาโครงการใด ๆ จะต้องผ่านการคิดอย่างดีว่าทำแล้วได้สร้างคุณค่ามากขึ้น ทั้งต่อสิ่งที่ทำ ต่อพื้นที่ ต่อสังคม ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ ซึ่งบางครั้งอาจจะมีคำถามว่า ทำไมได้ธุรกิจ ที่ดิน หรือสถานที่ไปแล้วยังไม่ทำหรือพัฒนาอะไร นั่นก็เพราะต้องคิดไตร่ตรองให้ดีถึงผลที่จะเกิดต่อส่วนรวม

“สิ่งที่เราทำ มันอาจจะสร้างความสวยงาม สร้างความไม่สวยงาม ไม่ยั่งยืน อันนี้รีบร้อนไม่ได้ การจะทำสิ่งต่าง ๆ ต้องคิดอย่างรอบคอบว่าทำแล้วจะไม่ทำให้ส่วนรวมเกิดความเสียหาย”

“วันนี้ก็ดีใจ เพราะว่าลูกคนที่สองของผม (วัลลภา ไตรโสรัส) กับสามีของเขา (โสมพัฒน์ ไตรโสรัส) ได้จบทั้งสามวิชาในมหาวิทยาลัยเดียวกัน วิชาแรก สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งก็มีวัฒนธรรม ใคร ๆ ก็รู้จัก และได้เกียรตินิยมอันดับ (วัลลภา) ก็ขอคุณแม่ (คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี) ไปเรียนอังกฤษ เขาเรียนที่ LSE (วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน-The London School of Economics and Political Science) ก็สอบได้แล้ว ใครอยากเข้า ก็ไม่ใช่ง่าย ก็ไปเรียนสาขาเศรษฐศาสตร์การวางผังเมือง แล้วก็ยังขออีกใบหนึ่งกับคุณแม่ เพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ดิน”

“ครั้งที่แล้ว พอดีคุณหญิง (คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี) ไม่สบาย ผมก็ไม่ได้มาเปิดโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ เมื่อวานนี้มาถึงก็ได้ไปชมโรงแรมมีเลีย ก็รู้สึกมหัศจรรย์ว่า ตอนที่เขาจะขายและผมได้ข่าวมา ดูแล้วมันเก่ามาก ๆ ใต้โรงแรมก็ยังทำธุรกิจที่ไม่ค่อยเหมาะสม ก็เลยไม่เคยมาดูเลย ก็ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อซื้อขาย ก็เก็บมาจนกว่า… เอ๋ (วัลลภา) ได้ตั้ง AWC บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งผมก็ได้ใช้วัฒนธรรมและคติพจน์ของบรรพบุรุษ ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นคนมีเงินอะไร เพียงแต่สอนว่า ‘ทำยังไงให้คนอื่นดี เราถึงจะดีได้’ เราต้องคิดข้อนี้”

“ข้อที่สอง คนโบราณจีนจะสอนว่า ‘ยิ่งให้ ยิ่งมี’ โรงแรมนี้เราถูกคนขอร้อง เราก็เลยซื้อ ซื้อเสร็จก็ต้องมาคิดว่าวันหลังลูกมาทำต่อ มันไม่ติดกันจะทำต่อไปอย่างไร ก็เลยจำเป็นจะต้องเก็บนิดผสมน้อย เพื่อที่จะเป็นรูปธรรม เพื่อที่มาทำแล้วถึงจะสวย”

“สิ่งต่าง ๆ ที่สะสมมาต้องใช้เวลาสะสมกว่า 30 ปี อย่างโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ซื้อเมื่อปี 2530 ถูกขอให้ช่วย ก็เลยช่วยมา ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการจะทำให้ดี ยั่งยืนและถูกต้อง ทำยังไงให้ให้คนที่มาสืบทอดต่อไปได้ไม่ทำให้เราที่เหน็ดเหนื่อยมา ไม่ลำบากมา เจ็บมาอย่างยากลำบาก เขาจะได้เอามาเป็นคุณค่า เพื่อจะได้มีความสบายใจแค่นี้เอง”

“ผมโชคดีมาก ๆ ที่ได้แต่งงานกับคุณหญิงวรรณา เพราะคุณหญิงวรรณาเป็นบุคคลที่เป็นทั้งกำลังใจ และช่วยกลั่นกรองอย่างละเอียดทุกครั้ง เป็นคู่ชีวิตที่เราลืมไม่ได้”

จากนั้น เจ้าสัวเจริญกล่าวถึงทายาททั้งห้าคนว่า ลูกคนแรกเป็นลูกสาว (อาทินันท์ พีชานนท์) ทำเรื่องประกันไทยกรุ๊ป (บมจ.ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์) คนที่สอง (วัลลภา ไตรโสรัส) ดูแล AWC (บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป) คนที่สาม (ฐาปน สิริวัฒนภักดี) ลูกชายคนโต ก็ช่วย (บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ) คนที่สี่ (ฐาปนี เตชะเจริญวิกุล) ช่วยทำ BJC-บิ๊กซี (บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) คนสุดท้อง (ปณต สิริวัฒนภักดี) ทำ Frasers Property ที่ประเทศสิงคโปร์

“เอ๋ก็พยายามเลียนแบบ ก็มีลูก 5 คนแล้ว คนโตไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาแล้วกับคนที่สองนะครับ ทั้งหมดก็รู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เดินทางมา ลูก ๆ ก็พยายามสังเกตทั้งเช้าทั้งเย็นเวลาที่พบกัน จะได้รู้ว่าพ่อแม่ได้ทำอะไร แล้วก็เก็บความรู้สึกไว้ในใจ ในสมอง”

“ก็คิดว่าทุกอย่างต้องทำเรื่องความตั้งใจให้ดีกับทุกคน อันนี้สำคัญมาก คนไม่ดีเราก็อย่าไปคิดอะไรมาก เพียงแต่เราถือว่าเราผ่านและให้มันผ่านไป แต่อย่าลืมคนที่มีความกตัญญู สิ่งที่มีคนดี เราต้องทรงจำไว้เรื่อย ๆ ลืมไม่ได้ แต่คนไม่ดีมันก็ต้องมี เพราะสิบนิ้วเราไม่เท่ากัน ก็ต้องมีคนดี-คนไม่ดี แต่เราไม่ต้องไปจำคนไม่ดี แต่จำคนที่ดี เราจะมีคุณค่า”