คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี เสาหลักของตระกูล-ผู้อุทิศตนเพื่อสังคม

คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี

นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” และวงการธุรกิจของประเทศไทย ต่อการจากไปของ “คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี” เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 01.24 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด กำหนดพิธีการไว้อาลัย ตั้งแต่วันที่ 17-25 มีนาคม 2566 ณ ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส

ประวัติคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี เกิดวันอังคารที่ 2 มีนาคม 2486 สิริอายุ 80 ปี เป็นบุตรสาว “เจ้าสัวกึ้งจู แซ่จิว” ผู้คร่ำหวอดในกิจการค้าขายเครื่องดื่มสุรา และได้สมรสกับ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” มีบุตรด้วยกัน 5 คน คือ อาทินันท์ พีชานนท์ วัลลภา ไตรโสรัส ฐาปน สิริวัฒนภักดี ปณต สิริวัฒนภักดี และฐาปนี เตชะเจริญวิกุล

คุณหญิงวรรณา เป็นผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรไทยเจริญ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (TCC) บริษัทชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมมูลค่านับแสนล้านบาท ทั้งได้ทยอยลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานร่วม 50 ปี

ทั้งนี้ ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ของบริษัทในเครือ อาทิ รองประธานกรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร คนที่ 1 บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ รองประธานกรรมการ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ รองประธานกรรมการ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ รองประธานกรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป รองประธานกรรมการคนที่ 1 บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์

ปัจจุบันทีซีซี กรุ๊ป บริหารธุรกิจภายใต้ 5 แกนหลัก ประกอบด้วย 1.สายธุรกิจเครื่องดื่ม 2.สายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีบริษัทในเครือร่วมบริหารพอร์ตครบวงจร ทั้งที่อยู่อาศัย ห้างค้าปลีก โรงแรม อาคารสำนักงาน อาทิ ทีซีซี แลนด์, ยูนิเวนเจอร์ และเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ 3.กลุ่มอุตสาหกรรมการค้า 4.กลุ่มประกันและการเงิน โดยอาคเนย์ และ 5.สายธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ผ่านกลุ่มพรรณธิอร ขับเคลื่อนกิจการทั้งในและต่างประเทศ ทั้ง สปป.ลาวและกัมพูชา

บทบาทของ “คุณหญิงวรรณา” นอกเหนือจากเป็นที่รู้จักกันดีในวงการธุรกิจแล้ว งานทางด้านสังคมและการกุศล ถือว่า “คุณหญิงมีบทบาทสำคัญมาก” ในฐานะผู้อุทิศตนเพื่อสังคมอย่างแท้จริง

เกือบทุกโครงการที่ต้องการน้ำใจจากผู้ใจบุญ จะมีชื่อ “คุณหญิง” เป็นลำดับแรก ๆ ในการบริจาค ทั้งเงิน สิ่งของเครื่องใช้ และให้โอกาสสำหรับผู้ด้อยโอกาส ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ป่วย และผู้พิการ

ท่านดำรงตำแหน่งสำคัญในมูลนิธิต่าง ๆ อาทิ กรรมการศิริราชมูลนิธิ กรรมการมูลนิธิรามาธิบดี กรรมการมูลนิธิสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ กรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กรรมการมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ กรรมการ คณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย กรรมการมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง และกรรมการมูลนิธิแอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล

ชีวิตส่วนตัว คุณหญิงเป็นผู้หญิงใจเด็ด มีความเป็นผู้นำ รักครอบครัว และมีความอดทนเป็นเลิศ ทั้งเป็นคู่คิด “เจ้าสัวเจริญ” ผู้เป็นสามีในทุกเรื่อง หลังธุรกิจประสบความสำเร็จเกินคาด คุณหญิงไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะคอยเอื้อเฟื้อเกื้อกูลทั้งบริวารเครือญาติ และทุกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา

ในแง่ศาสนิกชน “คุณหญิง” น้อมรับนับถือพระพุทธศาสนา และปฏิบัติตามหลักคำสอนมาโดยตลอด ทั้งได้ถวายจตุปัจจัย เงินบริจาค เพื่อร่วมสมทบทุนในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอารามอยู่เนืองนิตย์ รวมถึงโบราณสถาน โบราณวัตถุ เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีของไทยให้ยั่งยืน อย่างเช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ท่าเตียน คุณหญิงจะผูกพันเป็นพิเศษ ในฐานะโยมอุปัฏฐาก เป็นต้น

สำหรับบทบาทของความเป็น “แม่” คุณหญิงวรรณาได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ เป็น “เสาหลัก” ของครอบครัว ที่เลี้ยงดู อบรมสั่งสอนลูก ๆ ทั้ง 5 คน ด้วยหลักคิดที่ดีและหลักการที่ถูกต้อง

ฐาปน สิริวัฒนภักดี CEO บมจ.ไทยเบฟฯ ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงคำสอนของคุณหญิง ตั้งแต่ปี 2559 ว่า คุณแม่มี 4 ประโยค ที่บอกลูกเสมอ

“สุขภาพเป็นของเราเอง เงินทองเป็นของคนอื่น อำนาจเป็นเรื่องชั่วคราว ชื่อเสียงเป็นเรื่องชั่วนิรันดร์”

“สุขภาพเป็นของเราเอง ท่านบอกว่า ถึงแม้แม่จะรักหนุ่มมากแค่ไหน แต่ถ้าอยากจะช่วยเรื่องสุขภาพก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ถ้าเราป่วยก็ป่วย คนที่รักเราก็ไม่รู้จะช่วยเรายังไง”

“เงินทองเป็นของคนอื่น คือ ถ้าจะคิดว่าเป็นของเรา แต่เดี๋ยวมันก็มา เดี๋ยวมันก็ไป”


“อำนาจก็เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว ไม่มีอะไรที่อยู่ยงคงกระพันตลอดไป ส่วนชื่อเสียง สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราคิด จะเป็นสิ่งที่อยู่ตลอดไป”