
ก.ล.ต.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตเสนอขายโทเค็นดิจิทัลแบบกลุ่ม หรือ shelf filing รองรับการระดมทุนอุตสาหกรรม soft power ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 16 ก.ย. 67
วันที่ 18 กันยายน 2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า ก.ล.ต.ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตเสนอขายโทเค็นดิจิทัลแบบกลุ่ม (shelf filing) และการปรับปรุงสัดส่วนและมูลค่าการเสนอขายต่อผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อรองรับการระดมทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (soft power) ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
โดย ก.ล.ต.ปรับปรุงหลักเกณฑ์ shelf filing และการปรับปรุงสัดส่วนและมูลค่าการเสนอขายต่อผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่นในการขออนุญาตเสนอขายโทเค็นดิจิทัลต่อประชาชน (ICO) ให้ภาคเอกชนสามารถเลือกใช้ได้สอดคล้องกับลักษณะของโทเค็นดิจิทัล และเพื่อให้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการระดมทุนรวมจากผู้ลงทุนรายย่อยมีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับลักษณะของโครงการ
โดยยังมีการคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเพียงพอเหมาะสม อันเป็นการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการระดมทุน ซึ่ง ก.ล.ต.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้วเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เห็นด้วย ก.ล.ต.จึงออกประกาศเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ข้างต้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขออนุญาต ICO แบบกลุ่ม (shelf filing) กำหนดให้โทเค็นดิจิทัลที่สามารถเสนอขายแบบ shelf filing ต้องเป็นโทเค็นดิจิทัลที่เป็นโครงการซึ่งมีทรัพย์สินอ้างอิงหรือทรัพย์สินที่ลงทุนในลักษณะเดียวกัน หรือโครงการในทำนองเดียวกันตามที่ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด
ได้แก่ โครงการในกลุ่มอุตสาหกรรม soft power เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ละคร ศิลปะ เป็นต้น โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายแบบ shelf filing จะสามารถเสนอขายโทเค็นดิจิทัลได้โดยไม่จำกัดมูลค่าและจำนวนครั้งที่เสนอขายภายในระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ การยื่นคำขออนุญาตแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเค็นดิจิทัล (แบบ filing) การชำระค่าธรรมเนียม และข้อกำหนดเกี่ยวกับ ICO จะต้องเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
2. ยกเว้นการกำหนดสัดส่วนและมูลค่าการเสนอขายโทเค็นดิจิทัลรวมต่อผู้ลงทุนรายย่อยกรณีที่เป็นโครงการในกลุ่มอุตสาหกรรม soft power จากเดิมที่มีการจำกัดมูลค่าการระดมทุนรวมต่อผู้ลงทุนกลุ่มดังกล่าวไว้
ทั้งนี้ การออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว ได้เผยแพร่ลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก ก.ล.ต.กล่าวว่า ก.ล.ต.ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการพัฒนาตลาดทุน เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ในตลาดทุน โดยเฉพาะด้านการระดมทุนของกิจการผ่านเครื่องมือที่หลากหลายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
การปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ ก.ล.ต.คาดหวังว่า จะมีส่วนช่วยส่งเสริมโครงการในกลุ่มของอุตสาหกรรม soft power ให้เข้าถึงแหล่งทุนในตลาดทุนได้สะดวกขึ้น ตลอดจนเป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรม soft power สามารถสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) ของประเทศให้เติบโตก้าวหน้าต่อไป