JAS คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ 3 ซีซั่น กว่า 1.9 หมื่นล้าน

JAS ฟุตบอล ถ่ายทอดสดฟุตบอล

JAS เตรียมซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ มูลค่ารวมกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ไทย-กัมพูชา-ลาว เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นในการประชุมวันที่ 7 มกราคม 2568

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2567 ของบริษัทฯ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ได้พิจารณาและอนุมัติในเรื่องสำคัญ

หนึ่งในนั้น คือ การอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมเพื่อให้บริษัทฯ ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดภาพและเสียงรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ บนอินเทอร์เน็ตที่วี (Internet TV) และ ดิจิทัลทีวี (Digital TV) รวมถึงชุดวิดีโอสั้น (Clips package) ตลอดระยะเวลารายการฟุตบอลฟรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ 3 ฤดูกาล โดยเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ 2025/26 หรือ 6 ฤดูกาล ในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งจาก FAPL เป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ในประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19,167,723,414 บาท

ธุรกรรมถ่ายทอดลดฟุตบอลฟรีเมียร์ลึกและเอฟเอคัพ เข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)

โดยมีขนาดของรายการสูงสุดเท่ากับร้อยละ 117.82 ซึ่งคำนวณตามเกณฑ์มูลค่ารวมสิ่งตอบแทน โดยอ้างอิงจากงบการเงินรวมฉบับสอบทานของบริษัทฯ สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์รายการอื่นที่เกิดขึ้นระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติเท่ากับร้อยละ 8.6 ภายหลังจากการนับรวมขนาดรายการธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ รวมกับขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์รายการอื่นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติอนุมัติแล้วจะมีขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นเท่ากับร้อยละ 126.42

Advertisment

ดังนั้น ขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวสูงกว่าร้อยละ 100 ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการประเภทที่ 4 ของประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ มีมติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ในอังคารวันที่ 7 มกราคม
2568 เวลา 14.00 น. โดยเป็นการจัดประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพียงรูปแบบเดียว ตามพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีวาระหลัก คือ การพิจารณาอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลฟรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ

Advertisment

เปิดรายละเอียด สิทธิถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ

สำหรับรายละเอียดการได้รับสิทธิถ่ายทอดสดของ JAS นั้น จะเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดภาพและเสียง ของรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ

โดยออกอากาศผ่านทางช่องทางต่าง ๆ อาทิ อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (Satellite Direct-to-Home (DTH) โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล (Digital Terrestrial Television (DTT) โทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล (Cable TV) ไอพีทีวี (IPTV Delivery) บริการสื่อผ่านอินเทอร์เน็ต (Over-the-Top (OTT) Driven) รวมถึงชุดวิดีโอสั้น (Clips package) ของรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ในพื้นที่ 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศกัมพูชา และประเทศลาว

ระยะเวลาการรับสิทธิถ่ายทอดสดดังกล่าว ตลอดระยะเวลารายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ 3 ฤดูกาล โดยเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ 2025/26 หรือ ในกรณีที่ FAPL ให้สิทธิแก่บริษัทฯ เป็นระยะเวลา 6 ฤดูกาล โดยเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ 2025/26 FAPL จะแจ้งให้บริษัทฯ ทราบ
เป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ทั้งนี้ การให้สิทธิดังกล่าวขึ้นอยู่ดุลยพินิจของ FAPL แต่เพียงผู้เดียว

ขณะที่ค่าตอบแทนการใช้สิทธิถ่ายทอดสดของ JAS ที่ต้องจ่าย มีดังนี้

ค่าตอบแทนการได้ใช้สิทธิสำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีขาย (sales taxes) และภาษีหัก ณ ที่จ่าย)

1. รวมเป็นจำนวน 233,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 7,975,426,900 บาท ในกรณี FAPL ให้สิทธิแก่บริษัทฯ เป็นระยะเวลา 3 ฤดูกาล แบ่งเป็น

(ก) จำนวน 183,680,0000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 6,237,824 บาท สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แบ่งชำระเป็นจำนวน 3 งวด (ภายใน 7 นับจากวันที่คู่สัญญาลงนามในสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ วันที่ 1 พฤษภาคม ของปี 2568 และ 2569)

หรือจำนวน 6 งวด กรณีบริษัทฯ หลักประกันในการเข้าทำสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (ทุกวันที่ 1 กรกฎาคม และ 1 ธันวาคม ของปี 2568 จนถึงปี 2570)

(ข) จำนวน 9,320,000 ดอลลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 319,017,076 บาท
สำหรับเอฟเอคัพ แบ่งชำระเป็นรายปี และ

(ค) ค่าตอบแทนการได้ใช้สิทธิซึ่งต้องชำระล่วงหน้า

2. รวมเป็นจำนวน 549,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 18,791.885,700 บาท ในกรณีที่ FAPL ให้สิทธิแก่บริษัทฯ เป็นระยะเวลา 6 ฤดูกาล แบ่งเป็น

(ก) จำนวน 487,040,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 16.671,038.272 บาท สำหรับฟุตบอลพรีเมียรลึก แบ่งชำระเป็นจำนวน 6 งวด (ภายใน 7 นับจากวันที่คู่สัญญาลงนามในสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลึกและเอฟเอคัพ วันที่ 1 พฤษภาคม ของปี 2568 จนถึงปี 2572)

หรือจำนวน 12 งวด กรณีบริษัทฯ หลักประกันในการเข้าทำสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (ทุกวันที่ 1 กรกฎาคม และ 1 ธันวาคม ของปี 2568 จนถึงปี 2573)

(ข) จำนวน 21,960,0000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 751,675,428 บาท
สำหรับเอฟเอคัพ แบ่งชำระเป็นรายปี และ

(ค) ค่าตอบแทนการได้ใช้สิทธิซึ่งต้องชำระล่วงหน้า

ค่าตอบแทนการได้ใช้สิทธิซึ่งต้องชำระล่วงหน้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีขาย (sales taxes) และภาษีหัก ณ ที่จ่าย)

จำนวน 40,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1,369,172,000 บาท ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ของสัญญา Standstill Agreement ทั้งนี้ ณ วันที่ของสารสนเทศฉบับนี้ บริษัทฯ ได้ชำระค่าตอบแทนการได้ใช้สิทธิซึ่งต้องชำระล่วงหน้า ให้แก่ FAPL แล้ว

ในกรณีบริษัทฯ และ FAPL เข้าลงนามในสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ค่าตอบแทนการได้ใช้สิทธิซึ่งต้องชำระล่วงหน้าจะถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทนการได้ใช้สิทธิสำหรับการถ่ายทอดสดภาพและเสียงของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (Live Package) ทั้งนี้ ไม่ว่าบริษัทฯ จะได้รับสิทธิ 3 ฤดูกาล หรือ 6 ฤดูกาลก็ตาม

ค่าตอบแทนการได้ใช้คลิปภาพและเสียงดิจิทัล (Clips Package)

ภายหลังจากการเข้าทำสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก บริษัทฯ และ FAPL จะเข้าเจรจาโดยสุจริตเพื่อเข้าทำ Long Form Agreement สำหรับคลิปภาพและเสียงดิจิทัล (Clips Package) สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเป็นระยะเวลา 3 ฤดูกาล โดยบริษัทฯ จะต้องชำระค่าตอบแทนการได้ใช้คลิปภาพและเสียงดิจิทัลอีกเป็นจำนวน 4,660,000 ดอลลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 159,508,538 บาท