
ตลาดหลักทรัพย์ฯ แนะทางเลือกลงทุน ชูดัชนี SETHD กลุ่มหุ้นปันผลสูง 30 บริษัท พบสถิติใน 1 ปีย้อนหลัง ให้ผลตอบแทน 2.37% ชนะ SET ที่ติดลบ 13.94%
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนในภาวะปัจจุบัน ขอนำเสนอสถิติดัชนี SETHD (SET High Dividend 30 Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคากลุ่มหุ้น 30 ตัว ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง
โดยพบว่าสถิติผลตอบแทน SETHD ย้อนหลัง 1 ปี (มี.ค.2567-มี.ค.2568) เป็นบวกที่ 2.37% ในขณะที่ผลตอบแทนดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ติดลบ 13.94% (ดูตาราง)
ทั้งนี้นักลงทุนสามารถพิจารณาข้อมูลหุ้นดังกล่าวได้ที่ https://www.set.or.th/th/market/index/sethd/overview
สถิติหุ้นปันผลชนะ SET
นายภูวดล ภูสอดเงิน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล. บัวหลวง กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือน ก.พ.-พ.ค. 2568 จะเข้าสู่เทศกาลจ่ายปันผลประจำปี 2567 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งโดยสถิติผลตอบแทนหุ้นปันผล (SETHD) ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ของทุกปีจะสูงกว่า SET Index
“ค่ากลางตั้งแต่ปี 2558-2567 ของ SETHD พบว่า ในเดือน ม.ค.ของทุกปี ผลตอบแทนจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7% ในขณะที่ SET Index และ SET50 อยู่ที่ 1.1% และในเดือน ก.พ.ของทุกปี ผลตอบแทน SETHD อยู่ที่ 1.1% ในขณะที่ SET Index และ SET50 อยู่ที่ 0.3% และ 0.4% ตามลำดับ สะท้อนได้ว่า หากนักลงทุนลงทุนหุ้นปันผลให้ชนะผลตอบแทน SET Index ได้นั้น ต้องลงทุนในช่วง 2 เดือนนี้”
7 หุ้นปันผลตัวท็อป
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ CFTe, AISA ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี กล่าวว่า บริษัทได้รวบรวมหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลช่วงปี 2567 โดยคัดสรรหุ้นปันผลสูง (High Dividend) จากที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) มากกว่า 3.5% ในเชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อหุ้นปันผลสูงก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ประมาณ 2 สัปดาห์แล้วขายวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD มักจะให้ผลตอบแทนที่ดี
ทั้งนี้ ได้คัดกรองหุ้นปันผลเด่นภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อคือ 1.เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล งวดปี 2567 อาจจะจ่ายครั้งเดียว หรือ 2 ครั้ง และ 2.เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มการเติบโต มีกระแสเงินสดมั่นคง อยู่ในธีมการลงทุนหลักของ บล.กรุงศรี ในปี 2568 อาทิ ธีมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2568 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร หรืออยู่ในอุตสาหกรรม Upcycle อาทิ ไอซีที หรือหุ้นที่อยู่ในกลุ่มได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มการเงิน ฯลฯ โดยเรียงตามอัตราตอบแทนเงินปันผลจากสูงไปต่ำ
ทั้งนี้ หุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลเด่น มีดังนี้ “หุ้น Big Cap” ได้แก่ 1.SCB ราคาเป้าหมาย 135 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 8.6% 2.TTB ราคาเป้าหมาย 2.2 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 7.2% 3.HMPRO ราคาเป้าหมาย 13.5 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 4% และ 4.ADVANC ราคาเป้าหมาย 305 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 3.7%
และ “หุ้น Mid Cap” ได้แก่ 5.AP ราคาเป้าหมาย 11.8 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 7.6% 6.TISCO ราคาเป้าหมาย 97 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 5.8% และ 7.SC ราคาเป้าหมาย 3.2 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 5.8%
“มูลค่าเงินปันผลช่วงปี 2557-2566 สูงถึงปีละ 3-6 แสนล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลให้นักลงทุนใช้ประกอบการวางแผนลงทุนในจังหวะที่ตลาดหุ้นผันผวน แต่สามารถจะได้รับผลตอบแทนที่ดีได้” ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีกล่าว