
CPNREIT ไตรมาส 1/68 กวาดรายได้ 1,545 ล้าน เตรียมจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 0.2660 บาทต่อหน่วย XD วันที่ 19 พ.ค.นี้ มองเศรษฐกิจไทยมีแรงหนุนจากบริโภคเอกชน – นักท่องเที่ยว ตั้งเป้าปีนี้รักษาอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90%
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ กรรมการ บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNREIT เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568 (มกราคม – มีนาคม) ของ CPNREIT โดยสามารถทำรายได้รวม 1,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน นับเป็นการทำผลงานที่แข็งแกร่ง
โดยเป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าและบริการรวม 1,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% แบ่งเป็น 1. ธุรกิจศูนย์การค้า มีรายได้ค่าเช่าและบริการ 1,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากการรับรู้รายได้ค่าสาธารณูปโภคและรายได้ค่าบริการส่วนกลาง (CAM Charge) ของเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ตามสัญญาใหม่สำหรับระยะเวลา 15 ปี ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นมา
2. ธุรกิจอาคารสำนักงาน มีรายได้ค่าเช่าและบริการ 254 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ผลจากอาคารสำนักงานยูนิลีเวอร์เฮ้าส์ มีอัตราเช่าพื้นที่เต็ม 100% รวมถึงมีการมีการรับรู้รายได้ค่าสาธารณูปโภคและรายได้ค่าบริการส่วนกลางของอาคารสำนักงานปิ่นเกล้า ตามสัญญาใหม่
และ 3. ธุรกิจโรงแรม มีรายได้ค่าเช่าจำนวน 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากการปรับขึ้นค่าเช่ารายปีตามสัญญา และรายได้อื่น ๆ จำนวน 7 ล้านบาท

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 CPNREIT มีการลงทุนในสิทธิการเช่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล 7 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่ารวม 253,950 ตารางเมตร ได้แก่
- เซ็นทรัล พระราม 2
- เซ็นทรัล พระราม 3
- เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
- เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต
- เซ็นทรัล พัทยา
- เซ็นทรัล ลำปาง
- เซ็นทรัล มารีนา (พัทยา)
อาคารสำนักงาน 4 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่ารวม 111,533 ตารางเมตร ได้แก่
- ปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ เอ
- ปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ บี
- เดอะไนน์ ทาวเวอร์ส
- ยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์
โรงแรม 1 แห่ง ได้แก่
- ฮิลตัน พัทยา จำนวน 304 ห้อง
ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ของศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานเฉลี่ยอยู่ที่ 91% ชะลอตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ตามการลดลงของอัตราเช่าพื้นที่ของศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานที่อยู่ระหว่างปรับปรุง แต่ยังมีจำนวนผู้ใช้บริการศูนย์การค้าเฉลี่ย 88% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ CPNREIT สามารถต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิมได้กว่า 95% และทำสัญญาเช่าใหม่กับผู้เช่าอีกกว่า 154 สัญญา จากธุรกิจหลากหลาย
ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 988 ล้านบาท ชะลอตัวลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย ซึ่งมาจากค่าสาธารณูปโภคและค่าบริการส่วนกลางของโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ตามสัญญาใหม่ ขณะที่รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่
อย่างไรก็ตาม CPNREIT ยังคงจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอ โดยได้พิจารณาจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์จากผลการดําเนินงานในไตรมาส 1/2568 ที่อัตรา 0.2660 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็น เงินจ่ายประโยชน์ตอบแทน 0.2505 บาทต่อหน่วย และเงินลดทุน 0.0155 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD และ XN วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยทรัสต์ (Book Closing) เพื่อสิทธิรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินในวันที่ 4 มิถุนายน 2568
นางสาวนภารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของภาครัฐ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.1% ต่อปี ด้วยสาเหตุหลักจากแรงกดดันด้านการค้าโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดี อีกทั้งคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 36.5 ล้านคน หรือขยายตัว 2.7% ต่อปี ขณะเดียวกันการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.25% เป็น 2% (ณ รอบเดือนมกราคม 2568) และสิ้นเดือนเมษายน 2568 ปรับลดเป็น 1.75% คาดว่าจะส่งผลดีต่อกองทรัสต์ฯ อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน และอาจส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของกองทรัสต์ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ CPNREIT ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ผู้นำกองทรัสต์ค้าปลีกชั้นนำระดับภูมิภาค โดยในปี 2568 ตั้งเป้ารักษาอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90% แม้จะอยู่ระหว่างการปรับปรุงทรัพย์สิน 3 แห่ง ได้แก่
1. โครงการเซ็นทรัลปิ่นเกล้า คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2568 2. โครงการเซ็นทรัล เชียงใหม่แอร์พอร์ต คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2569 และ 3. โครงการเซ็นทรัล มารีนา คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้
พร้อมตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่ 30,000-35,000 คนต่อวัน ขณะเดียวกัน CPNREIT อยู่ระหว่างพิจารณาศูนย์การค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในศูนย์การค้าที่มีผลประกอบการที่ดี และอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงในการสร้างการเติบโตของผลตอบแทนของ CPNREIT ในระยะยาว