
เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ จับตาความตึงเครียดตะวันออกกลาง หลังมีรายงานว่าอิหร่านต้องการเจรจายุติการสู้รบกับอิสราเอล และกลับสู่การเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ ส่งผลให้ราคาทองและทองคำปรับลง
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (17/6) ที่ระดับ 32.47/48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (16/6) ที่ระดับ 32.48/49 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
โดยดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นลงในกรอบเดิมเทียบเงินสกุลหลัก หลัง Dollar Index ปรับตัวในกรอบจำกัดที่ระดับ 98.24 ขณะที่นักลงทุนเริ่มลดความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลงบ้าง หลังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านได้ส่งสัญญาณอย่างเร่งด่วนว่าต้องการยุติการสู้รบกับอิสราเอล และกลับสู่การเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์อีกครั้ง โดยอิหร่านได้ส่งข้อความดังกล่าวไปยังอิสราเอลและสหรัฐ ผ่านทางตัวกลางที่เป็นชาติอาหรับ ทำให้ราคาทองคำและราคาน้ำมันปรับตัวลงจากช่วงก่อนหน้า
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ (16/6) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ปรับตัวลง 7 จุด สู่ระดับ -16 ในเดือน มิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -6 จากระดับ -9 ในเดือน พ.ค.
ทั้งนี้ดัชนียังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก โดยได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้น และภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อทิศทางในอนาคต
โดยตลาดรอจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในวันที่ 17-18 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
ด้านปัจจัยภายในประเทศ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างประเทศไทยและสหรัฐว่า สัปดาห์นี้จะเปิดการเจรจาทางเทคนิคได้ โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์นำทีมเจรจาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งยืนยันว่ากระทวงพาณิชย์มีความพร้อมเต็มที่และมั่นใจว่าการเจรจาจะประสบความสำเร็จได้
แต่หากการเจรจาจบไม่ทันวันที่ 9 ก.ค. 2568 ที่ครบกำหนด 90 วัน ในการชะลอการขึ้นภาษีตอบโต้นั้น ทางสหรัฐเคยเปรยว่า หากประเทศใดมีความตั้งใจในการเจรจาก็อาจขยายเวลาออกไปได้ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.45-32.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 32.56/57 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (17/6) ที่ระดับ 1.1550/51 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (16/6) ที่ระดับ 1.1583/84 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยในวันนี้ (17/6) ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) ได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีอยู่ที่ระดับ 47.5 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 34.8 ในเดือน พ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 52.2 จุด
ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.1544-1.1572 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1557/58 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (17/6) ที่ระดับ 144.92/93 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (16/6) ที่ระดับ 144.11/12 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันนี้ (7/6)
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดและเป็นการคงดอกเบี้ยในการประชุมสามครั้งติดต่อกัน เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นการส่งออกตกอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน
นอกจากนี้ BOJ ได้ประกาศว่าจะชะลอความเร็วในการลดซื้อพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่เดือน เม.ย. 2569 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะดำเนินการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติอย่างรอบคอบระมัดระวัง ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 144.41-145.11 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 144.81/82 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายปลีกเดือน พ.ค. ของสหรัฐ (17/6), ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน พ.ค.ของสหรัฐ (17/6), การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. ของสหรัฐ (17/6), สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน เม.ย. ของสหรัฐ (17/6), ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน มิ.ย.ของสหรัฐ (17/6),
ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน พ.ค. ของญี่ปุ่น (18/6), ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือน เม.ย. ของญี่ปุ่น (18/6), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค.ของอังกฤษ (18/6), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. ของยุโรป (18/6), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (18/6),
ผลการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของเฟด (19/6), ผลการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) (19/6), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. จาก Gfk ของอังกฤษ (20/6), ดัชนียอดขายปลีกเดือน พ.ค.ของอังกฤษ (20/6), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. ของญี่ปุ่น (20/6), ดัชนีการผลิตเดือน มิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย (20/6)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.7/-7.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -4.8/3.7 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ