บล.โกลเบล็กชี้เทรดวอร์กดดันเศรษฐกิจโลก นักลงทุนโยกเงินลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย

บล.โกลเบล็ก หวั่นสงครามการค้าสหรัฐ-จีนกระทบเศรษฐกิจโลก นักลงทุนโยกเงินลงทุนทองคำ “เจพีมอร์แกน” เตรียมหั่นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 2/62 ร่วง โตเพียง 1% หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนเม.ย.อ่อนแอกว่าคาด ฟากแบงก์ชาติเตรียมทบทวนตัวเลขจีดีพีไทยปี 62 ใหม่

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะจบได้ในเร็วๆ นี้ และมีแผนจะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 มิ.ย.62 รวมทั้งการปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยของ MSCI ซึ่งจะมีผลปลายเดือนพ.ค.นี้ และปัจจัยการเมืองในประเทศมีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลใกล้เป็นความจริง

ส่วนปัจจัยลบที่ยังคงกดดันในช่วงนี้ ล่าสุด เจพีมอร์แกนปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ โตเพียง 1% ในไตรมาส 2/62 หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน เม.ย. อ่อนแอหลายรายการ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองลดลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง ยอดค้าปลีกลดลง รวมทั้งจีนเปิดเผยกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้หดตัวลง 3.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลง 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีเฉพาะเดือน เม.ย. และ ตัวเลขส่งออกของไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 หดตัว 1.86% กดดันความเสี่ยงที่จะเห็นการส่งออกทั้งปีหดตัว และเป็นเหตุให้ Consensus มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมทบทวนตัวเลข GDP ปี 62 ใหม่ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้

นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาในวันที่ 28 พ.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ค. และสหรัฐฯ เปิดเผยราคาบ้านเดือนมี.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค. วันที่ 29 พ.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์ วันที่ 30 พ.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP ไตรมาส 1/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และวันที่ 31 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

นายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนในกรอบกว้างจากสัปดาห์ก่อนจากความไม่ชัดเจนของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน ขณะที่ปัจจัยการเมืองคาดจะมีความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล โดยคาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,595 – 1,640 จุด ช่วงนี้ใกล้เวลาดัชนีอ้างอิงหุ้นปรับการคำนวณ (rebalance) จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนี MSCI มีผล 28 พ.ค. ได้แก่ RATCH, INTUCH และ DTAC เข้าคำนวณดัชนี MSCI Thailand ส่วนหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนี FTSE มีผล 21 มิ.ย. ได้แก่ OSP เข้าคำนวณดัชนี FTSE All-World ส่วน TQM, NER และ PR9 เข้าคำนวณดัชนี FTSE Small Cap

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะสงครามการค้าทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้นจากคำสั่งพิเศษของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจกำหนดให้ผู้ประกอบการในทุกประเทศที่ต้องการทำการค้ากับสหรัฐฯต้องระงับการทำธุรกิจกับบริษัทใดๆ ของจีนก็ได้ ซึ่งจีนถือเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าเทคโนโลยีเพื่อผลิตต่อที่สำคัญ แต่ก็เป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสำหรับสร้างเทคโนโลยีในอันดับต้นของโลกด้วย ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อห่วงโซ่อุปทานและรอบวงการผลิตทั่วโลก โดยเฉพาะในกิจการที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรทางเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ว่าถ้าหากเกิดการโต้กลับจากทางจีน และฝั่งสหรัฐฯเพิ่มรายชื่อบริษัทที่ถูกแบน จะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่เศรษฐกิจทั่วโลกได้ ทำให้ค่าเงินาร์ปรับตัวอ่อนแรงลดลงมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่เงินทุนเลือกเข้าถือพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ กดให้อัตราผลตอบแทนต่ำลง ส่วนกลุ่มโลหะมีค่าได้รับอานิสงส์ 2 ส่วน ทั้งจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับการลงทุน แต่เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์สงครามการค้ามีโอกาสจะคลี่คลายได้เมื่อเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นในลักษณะรีบาวด์เท่านั้น และคาดว่าไม่น่าจะทะลุระดับสำคัญที่ 1,300 ดอลลาร์ ขึ้นไปยืนได้อย่างมั่นคง

ดังนั้นคาดการณ์กรอบราคาทองคำสัปดาห์นี้มีแนวต้านในช่วง 1,290 -1,305 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ในช่วง 1,265 – 1,270 ดอลลาร์ และให้ระดับ 1,280 ดอลลาร์ เป็นเส้นแบ่งการเลือกเล่นสวิงระหว่างกรอบบนกับกรอบล่าง โดยกลยุทธ์ยังคงแนะนำให้เก็งกำไรแบบ swing trade ในกรอบจำกัด และเน้นปิดทำกำไรเร็ว