นายสรวิศ ไกรฤกษ์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในไตรมาส 3/62
โดยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงส์เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจของบริษัท ได้แก่ การขยายสาขาร้าน Index Living Mall และร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก รวมถึงการขยายกำลังการผลิตรองรับธุรกิจใหม่บริการสั่งจัดเฟอร์นิเจอร์ตามความต้องการลูกค้าผ่านระบบออนไลน์ภายใต้แบรนด์ “Younique Customized Furniture 4.0” นอกจากนี้มีแผนนำเงินไปใช้ในการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป กาปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร การชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนรวม 2,525 พันล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 505 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท ซึ่งเป็นทุนชำระแล้วจำนวน 2,000 พันล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 400 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 105 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 20.79% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เปิดเผยว่า บริษัทประกอบธุกิรกิจค้าปลีกของตกแต่งบ้านครบวงจร โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ารวม 5 ช่องทาง ได้แก่ 1.ร้านค้าปลีกของบริษัทฯ เช่น Index Living Mall, Index Furniture Centre, Trend Design, MOMENTOUS และ BoConcept 2.กลุ่มลูกค้าประเภทนิติบุคคลทั้งในและต่างประเทศ เช่น กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มอาคารสำนักงาน กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มมหาวิทยาลัย และกลุ่มโรงแรม 3.แฟรนไชส์ในต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เนปาล มัลดีฟส์ ลาว กัมพูชา ปากีสถาน และเมียนมาร์ รวมทั้งหมด 17 ร้านค้า 4.ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) และ 5.ออนไลน์
ทั้งนี้ ในปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 9,658 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายทั้งหมด 9,174 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 3.3% รายได้จากการให้บริการ 484 ล้านบาท เติบโต 9.0% จากปี 2560 และมีกำไรสุทธิก่อนหักขาดทุนรวม 592 ล้านบาท เติบโต 10% โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากร้านค้าปลีก 77% งานโครงการ (ขายให้นิติบุคคล) 12.3% การขายและให้บริการอื่นๆ 6.3% และการให้บริการพื้นที่เช่า 4.3%