บตท. โชว์ผลงานก่อนควบรวม ธอส. บริหารพอร์ตหนี้บ้าน MBK-G หนี้เสีย 0%

นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) รัฐวิสาหกิจ ประเภทสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัย ระหว่าง บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) และ บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด (MBK-G) ในกลุ่ม MBK ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกในการจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชน (Developer) นับเป็นย่างก้าวที่สำคัญในแวดวงตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยไทยและอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรา

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา บตท.ได้ซื้อพอร์ตสินเชื่อบ้านที่มีคุณภาพดีจากบริษัท MBK-G วงเงินรวม 111.85 ล้านบาท เป็นลูกหนี้สินเชื่อบ้านที่มีประวัติการผ่อนชำระดี LTV รวม ไม่เกิน 90% มีระยะเวลาการผ่อนกับ MBK-G มาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน แล้วมาผ่อนต่อกับ บตท. จนถึงตอนนี้ก็ปีกว่าแล้ว ยังไม่พบหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) หรือ NPL เป็นศูนย์จึงทำให้เชื่อได้ว่า การปรับปรุงเกณฑ์การคัดกรองและกระบวนการตรวจสอบคุณภาพลูกหนี้แบบรายตัว รวมถึงเกณฑ์การพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระของลูกหนี้ ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหม่ที่ บตท. นำมาใช้กับ Developer มีความน่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ บตท.ได้ขยายบริการเพื่อรองรับลูกค้า ทั้งด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว แบบ 3, 5 หรือ 10 ปี โดยลูกค้าสามารถนำค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยไปหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีได้ ที่อำนวยความสะดวกในการชำระค่างวดผ่านระบบ Digital Banking แอปพลิเคชั่นธนาคารบนมือถือ หรือ Mobile Banking เช่น Krungthai NEXT, K PLUS, Bualuang mBanking และ SCB EASY อีกทั้งผ่าน โลตัส เคาน์เตอร์เซอร์วิส และบริการหักผ่านบัญชี รวมถึงเปิดช่องทางสื่อสารกับลูกค้าผ่าน Line Official Account (@smc.or.th) และ Call Center เพื่อบริการข้อมูลทุกวันเวลาทำการ

โครงการความร่วมมือระหว่าง บตท. และ MBK-G นับเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จจากการใช้เกณฑ์การพิจารณาพอร์ตสินเชื่อบ้านที่เข้มข้นกับ Developer ที่สะท้อนจากคุณภาพสินเชื่อที่ไม่มี NPL ตลอดระยะเวลากู้รวม 2 ปี ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจสำหรับโมเดลนี้ และเชื่อว่าในอนาคต Developer จะมีบทบาทสำคัญในระบบสินเชื่อที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับในต่างประเทศ ที่มีบทบาทนอกเหนือจากเป็นผู้พัฒน อสังหาริมทรัพย์แล้วยังสามารถให้สินเชื่อกับลูกค้าได้โดยตรง ช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้มากขึ้น

รวมไปถึงยังเป็นช่องทางการขยายรูปแบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวของ บตท. ช่วยลดความเสี่ยงช่วงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาขึ้นให้กับประชาชน และเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว ด้วยการระดมทุนผ่านการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) เพื่อส่งเสริมตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยประเทศไทยตามพันธกิจหลักของ บตท.

ก่อนหน้านี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ได้เห็นชอบให้ควบรวม บตท. เข้ากับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยระหว่างนี้ยังอยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายเพื่อควบรวมกิจการดังกล่าว