– ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ปรับเพิ่ม 5.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
– ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากความกังวลของนักลงทุน หลังข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มเสร็จล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมในเดือน พ.ย. 62
+ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปี มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.50-1.75 เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนตัว
+ ท่อขนส่งน้ำมัน Keystone ในรัฐนอร์ธ ดาโกตา หยุดดำเนินการเนื่องจากเหตุน้ำมันรั่วไหล โดยยังไม่แจ้งถึงกำหนดการกลับมาดำเนินการ ซึ่งท่อขนส่งน้ำมันนี้สามารถส่งน้ำมันดิบได้ราว 590,000 บาร์เรลต่อวัน จากแคนาดาไปยังโรงกลั่นน้ำมันในภาคตะวันตกของสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลของเกาหลีใต้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้เพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม