วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานราคาทองคำ วันที่ 6 พ.ย. 2562

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำ วันที่ 6 พ.ย. 2562 และแนวโน้มการซื้อขายทองคำ

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ดิ่งลงถึง 25.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันมาจาก 2 ประเด็น คือ (1.)การทะยานขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าจีนและสหรัฐ หลัง CNBC รายงานว่า จีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกคำสั่งการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 15% วงเงิน 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่วอลล์สตรีท เจอร์นัล และไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนกำลังพิจารณาประเด็นการยกเลิกภาษีนำเข้าบางส่วน นั่นช่วยหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปิดบวกเป็นวันทำการที่ 3 ติดต่อกัน จนเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงขายทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และ (2.)การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากทั้งทัศนะเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าจีนและสหรัฐ รวมไปถึงการเปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐจาก ISM ที่ดีดตัวเกินคาดแตะระดับ 54.7 ในเดือนต.ค. ปัจจัยที่กล่าวมากดดันราคาทองคำอย่างหนักจนส่งผลให้ราคาดิ่งลงถึง -1.7% ซึ่งเป็นการร่วงลงในวันเดียวมากสุดในรอบมากกว่า 1 เดือน ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +1.18 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามมติที่ประชุมกนง. ธนาคารแห่งประเทศไทย และการเปิดเผยตัวเลขในภาคการผลิตของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิก

ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,480-1,473 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มราคาทองคำในระยะกลางยังคงมีรูปแบบแกว่งตัวออกด้านข้างในลักษณะ Sideway ซึ่งยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,493 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากผ่านได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,504 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,480-1,473 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรโซน 1,493 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ

คำแนะนำ เน้นเก็งกำไรระยะสั้น เสี่ยงซื้อในแนวรับบริเวณ 1,480-1,473 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,493 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ