บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำ วันที่ 8 พ.ย. 2562 และแนวโน้มการซื้อขายทองคำ
ปัจจัยพื้นฐาน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 22.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากก.พาณิชย์จีนแถลงว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของแต่ละฝ่าย ขณะที่จีนกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกข้อจำกัดต่อการนำเข้าสัตว์ปีกจากสหรัฐ ซึ่งช่วยดับความกังวลที่เกิดขึ้นในวันทำการก่อนหน้า ขณะที่ความหวังว่าทั้ง 2 ประเทศจะสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อมากกว่า 1 ปีได้ ทำให้ความน่าสนใจของทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดทอนลงและสร้างแรงหนุนอย่างมากต่อสินทรัพย์เสี่ยง จนดันดัชนีดาวโจนส์, S&P500 ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกันนี้ ข่าวดังกล่าวยังช่วยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) 2 รายลงมติสนับสนุนให้ BoE ลดดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิด ส่วนยูโรอ่อนค่าลงหลัง EU ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน ส่งผลให้ราคาทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือนบริเวณ 1,460.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งและคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM พร้อมกับติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐและดอลลาร์เพื่อใช้ชี้นำทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา
ปัจจัยทางเทคนิก
หลังจากราคาทิ้งตัวลงแรง หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 1,460-1,458 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มดันขึ้นสู่บริเวณ 1,473 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซนดังกล่าวขึ้นไป ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านในโซน 1,473-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
รอจังหวะการเปิดสถานะขายโดยอาจใช้บริเวณแนวต้าน 1,473-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากผ่าน 1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะขายอยู่ แนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,460-1,458 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดสามารถถือต่อ
คำแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะขายหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,473-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และให้ทยอยปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรหากราคาสามารถยืนเหนือโซน 1,460-1,458 ดอลลาร์ต่อออนซ์