วายแอลจี บูลเลี่ยน รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่ใจในหมู่นักลงทุนว่าสหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า Phase one กันได้หรือไม่ ขณะที่สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ The Economic Club of New York เมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้มีการระบุว่า สหรัฐจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน หรือการที่เขาจะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเพื่อลงนามในข้อตกลงการค้าแต่อย่างใด ทำให้ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณเชิงลบ เนื่องจากสะท้อนว่าการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศไม่ได้มีความคืบหน้ากว่าที่ตลาดเคยรับรู้ ประเด็นดังกล่าวชะลอการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงจึงส่งผลเชิงบวกต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคายังไม่มากนัก เนื่องจากดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้น ขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมจาก NFIB ที่ออกมาดีเกินคาด ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำ -4.10 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ พร้อมทั้งจับตาการ Testimony ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมเศรษฐกิจร่วม(Joint Economic Committee) ซึ่งอาจจะมีการแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต

ปัจจัยทางเทคนิก

ราคาทองคำวานนี้สร้างระดับระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นยังคงเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,464-1,473 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Advertisment

กลยุทธ์การลงทุน

แนะนำเปิดสถานะขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถกลับขึ้นมายืนเหนือแนวต้าน 1,464-1,473 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เนื่องจากการถือสถานะขายค่อนข้างมีความได้เปรียบ สำหรับการเข้าซื้อคืนอาจรอดูบริเวณ 1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดลงมาให้ชะลอการซื้อไปยังบริเวณ 1,436 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คำแนะนำ มีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวต้าน 1,464 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งขายทำกำไร แต่ถ้าผ่านได้ให้รอขายบริเวณแนวต้านสำคัญ 1,473 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่าน ประเมินแนวรับที่ 1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์