บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประจำวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 8.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางทัศนะบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่งเกินคาด อาทิ ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 GDP ประจำไตรมาส 3/2019 ซึ่งขยายตัวมากกว่าคาดที่ระดับ 2.1% และสูงกว่าประมาณการครั้งแรกที่ 1.9%, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวขึ้นเกิดคาดถึง 0.6% ในเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงมากกว่าคาด ตัวเลขดังกล่าวช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับสภาะเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งนอกจากจะช่วยหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าแล้วนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันให้ดัชนีหลักของตลาดวอลล์สตรีทปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกด้วย สถานการณ์ดังกล่าวจึงกดดันราคาทองคำให้ร่วงลง ขณะที่เช้านี้ มีรายงานข่าวว่าปธน.ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคสำหรับการเจรจาการค้า จึงทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาบ้าง อย่างไรก็ดีวันนี้ราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายจะเบาบางกว่าปกติเนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุนและตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำวานนี้หยุดการสร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้ ขณะที่การอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,449-1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,463-1,471 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,449-1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,463-1,471 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อหากราคาไม่หลุด 1,449-1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อออกไป ทั้งนี้หากราคาไม่สามารถผ่าน 1,463-1,471 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจเลือกปิดสถานะบางส่วน