ธปท.ชี้ เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า

ธปท.ชี้เห็นเงินบาทส่งสัญญาณอ่อนค่าชัดขึ้น และเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง หลังนักลงทุนปรับมุมมองไทยไม่ใช่ Safe Haven เชื่อมาตรการคุมเก็งกำไร-แทรกแซงเงินไหลเข้า ช่วยชะลอบาทแข็งค่าได้

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาทหลังจากนี้ จะเห็นว่าไม่ได้มีทิศทางแข็งค่าเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเคลื่อนไหวใน 2 ทิศทาง เนื่องจากนักลงทุนปรับเปลี่ยนมุมมอง โดยมองค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะค่าเงินบาท-ไทย ไม่ได้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนมองว่า เงินบาทแข็งค่าเกินไปกว่าปัจจัยพื้นฐานที่จะลงทุน ทำให้เงินบาทมีโอกาสเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่ามีมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่า ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และได้มีการดำเนินการดูแลค่าเงินในหลายเรื่อง ทั้งในส่วนของมาตราการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท ทั้งในส่วนของการลดยอดคงค้างบัญชีเงินฝากสกุลบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non-resident : NR) รวมถึงการให้มีการรายงานการถือครองตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติให้ลึกขึ้นถึงระดับชื่อของผู้ได้รับผลประโยชน์แท้จริง (Ultimate Beneficiary Owners) เพื่อติดตามพฤติกรรมการลงทุนในตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ หากมีความผิดปกติจะสอบถามสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ในช่วงที่มีเงินไหลเข้ามามากๆ ธปท.ได้เข้าไปแทรกแซงไม่ให้เงินบาทแข็งค่า รวมถึงมาตรการผ่อนคลายที่ออกมาเร็วๆ นี้อีก 4 ด้าน ทั้งการนำเข้าเงินเข้ามาของผู้ประกอบการส่งออก และเปิดให้คนไทยที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถลงทุนต่างประเทศได้ รวมถึงได้มีการพูดคุยกับผู้ค้าทองรายใหญ่ให้สามารถซื้อขายทองคำเป็นเงินสกุลดอลลาร์ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะต้องใช้เวลาอาจไม่ได้เห็นผลเร็วนัก แต่พยายามช่วยชะลอการแข็งค่าได้

“ธปท.ไม่ได้สบายใจในช่วงที่ค่าเงินแข็งค่าขึ้น โดยเราได้ดำเนินหลายเรื่องเพื่อพยายามชะลอการแข็งค่า ทั้งการเข้มงวดในการที่จะติดตามเงินที่ไหลเข้ามาเพื่อเก็งกำไร จะเห็นว่าแม้ว่าค่าเงินในช่วงนี้เริ่มอ่อนค่าแล้ว และอ่อนค่าชัดขึ้นแต่เรายังติดตามอย่างใกล้ชิด”