SET ร่วง 24.17 จุด เหตุนลท.ขายทำกำไรหุ้นโรงไฟฟ้า

An electronic board shows stock movements at a private trading firm in Bangkok on June 18, 2012. Asian markets surged on June 18 and the euro rose after Greek pro-austerity parties won enough votes to form a government, but optimism it will stay in the eurozone was tempered with warnings that the future remains uncertain. AFP PHOTO/ Nicolas ASFOURI

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นวันที่ 16 ธ.ค.62 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดลบที่ 1,549.74 จุด ลดลง 24.17 จุด หรือลดลง 1.54% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 53,906.79 ล้านบาท โดยชี้ว่า นักลงทุนแห่ขายทำกำไรตอบรับกับปัจจัยบวกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันได้

ในส่วนของตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากหุ้นในกลุ่มปลอดภัยโดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ถูกขายทำกำไรออกมา ได้แก่ GULF -5.83% GPSC -5.46% BGRIM -3.27% และ EA -2.30% โดยชี้ว่าที่ผ่านมาราคาหุ้นของกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ปรับขึ้นสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานไปมากพอสมควร เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ที่กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีทิศทางเป็นลบ ขณะที่ทิศทางของกำไรหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้ายังเป็นบวก

“สถานการณ์ในปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกต่างๆ เช่น ทิศทางของเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศเริ่มดีขึ้น รวมถึงกำไรบจ.ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา (สัปดาห์ที่แล้ว) มีการปรับประมาณการขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้นักลงทุนมองว่าการลงทุนในหุ้นกลุ่มปลอดภัยอย่างในช่วงที่ผ่านมาอาจไม่มีความจำเป็นแล้ว เราก็เชื่อว่าในระยะข้างหน้าหุ้นกลุ่มที่ราคาลดลงมาต่ำ เช่น กลุ่มพลังงาน และกลุ่มโรงกลั่น จะมีความน่าสนใจมากขึ้น” นายกิจพณ กล่าว

นายกิจพณ กล่าวว่า SET Index อาจเผชิญความผันผวนในระยะสั้น โดยประเมินความเสี่ยงที่จะปรับลดลง (Downside Risk) ที่ 1,550 จุด หากหลุดจุดต่ำสุดที่ให้ไว้ดัชนีมีโอกาสปรับลดลงไปทดสอบบริเวณ 1,520 จุด อย่างไรก็ตาม บล.ยูโอบีฯ มีมุมมองเป็นบวกว่าในอีก 3-5 เดือนข้างหน้าตลาดหุ้นไทยจะมีโอกาสฟื้นตัวได้จากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว โดยชี้ว่าปัจจุบันตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงผันผวนช่วงท้ายและมีปัจจัยลบเรื่องของงบประมาณปี 2563 ที่มีความล่าช้าเท่านั้นที่ส่งผลให้หุ้นไทยปรับลดลงมาค่อนข้างแรงกว่าตลาดต่างประเทศ


ด้านภาพรวมตล่าดในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.62) ให้แนวรับที่ 1,546 จุด หากปรับลดลงหลุดแนวรับความว่าจะลงไปทดสอบที่ 1,525 จุด ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัวและมองว่าว่าบริเวณกรอบแนวรับ 1,520-1,546 จุด เป็นจุดที่สามารถตั้งรับได้