ธปท.ปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือโต 2.5% และปี 63 เหลือ 2.8% จากคาดการณ์เดิม 3.3% มองส่งออกปีนี้ติดลบ 3.3% เผยหลังออกมาตรการสกัดเงินบาทแข็ง 5 มาตรการ เห็นสัญญาณอ่อนค่าลง พร้อมเตรียมศึกษามาตรการดูแลค่าเงินบาทเพิ่มเติม
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับประมาณเศรษฐกิจใหม่ โดยมองว่ามีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าประมาณการณ์เดิมและต่ำกว่าศักยภาพ จึงปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.5% จาก 2.8% และในปี 2563 ปรับการเติบโตเหลือ 2.8% จากประมาณการเดิม 3.3% มาจากภาคการส่งออกชะลอตัวเป็นสำคัญ พร้อมปรับตัวเลขส่งออกปีนี้ติดลบ 3.3% จากเดิมติดลบ 1% และปี 2563 ส่งออกขยายตัว 0.5% จากเดิมโต 1.7%
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2562 และปี 2563 มีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยกรอบในปี 2562 ปรับ 0.8% มาอยู่ที่ 0.7% และปี 2563 จาก 1.0% มาอยู่ที่ 0.8% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาดตามเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวในระดับต่ำและอุปทานพลังงานที่จะเพิ่มขึ้น ส่วนอัตราเงินฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทยอยปรับสูงขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 42,050 บาท
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง อาทิ ผลกระทบจากการขยายตัวของธุรกิจ e-Commerce การแข่งขันต้านราคาที่สูงขึ้น รวมถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ทำให้ตันทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นช้ากว่าในอดีต
“การปรับลดจีดีพีมาจากการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัว แม้ว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว แต่การส่งออกยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงแรงกระตุ้นการลงทุนภาครัฐช้ากว่าที่คาด ทั้งรัฐวิสาหกิจและภาครัฐ ซึ่งบางโครงการเลื่อนไปปี 63 ทำให้แรงกระตุ้นไปอยู่ในปีหน้า”
ส่วนค่าเงินบาทหลังจากธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) มีมาตรการผ่อนคลายออกมา 5 มาตรการ ซึ่งสังเกตุได้ว่า2เดือนก่อนจะมีมาตรการ เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า แต่หลังจากมีมาตราการ พบว่านักลงทุนต่างชาติ มองบาทแข็งค่าไปมากแล้ว และเริ่มมีแนวโน้มอ่อนค่าเช่นกัน ขณะเดียวกัน จะเห็นเงินทุนเคลื่อนย้ายที่มีเม็ดเงินสมดุลมากขึ้น ทั้งเงินที่มาจากความต้องการซื้อเงินตราต่างประเทศ เช่น มีธนาคารบางแห่งซื้อกิจการต่างประเทศ หรือการประกาศขายธุรกิจ รวมถึงเห็นเงินทุนเคลื่อนย้ายจากภาครัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดัน อย่างไรก็ดี ธปท.ยังคงติดตามผลจากมาตรการอย่างใกล้ชิด รวมถึงกำลังอยู่ระหว่างศึกษาคิดมาตรการเพิ่มเติม หากดูแล้วว่ามาตรการที่ออกมาติดหรือมีอุปสรรค ธปท.ก็พร้อมใช้ แต่ต้องคิดอย่างรอบคอบ
“ช่วงที่ผ่านมาเราปรับดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง ถือเป็น Insurance Cuts ที่ดำเนินการไปแล้วล่วงหน้า หากจำเป็นก็พร้อมใช้นโยบายการเงินที่เหมาะสม”