“ชิม ช้อป ใช้ เฟส 4” สะดุด-กระตุ้นจับจ่ายตรุษจีนส่อแห้ว หลังเจอปัญหาคนหัวใสสร้างยอดใช้จ่ายปลอมระบาดทั่วประเทศ-โกงเงินแคชแบ็ก 15-20% สำนักงบฯยันมีเงินพร้อมจ่ายแคชแบ็กแต่ต้องมีหลักฐานใช้จ่ายตรวจสอบได้
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้ เฟส 4” ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด “ชิม ช้อป ใช้ ตอนนี้ดูกันอยู่ แต่คงไม่เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ม.ค.นี้ เพราะต้องหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ” นายอุตตมกล่าว
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “ชิม ช้อป ใช้ เฟส 4” นั้น หลักการเบื้องต้นจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 สามารถจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยกระทรวงการคลังได้เตรียมแพ็กเกจหลายรูปแบบ เสนอให้ ครม.
เห็นชอบ อาทิ ให้ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยระบบ POS (point of sale) สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพื่อเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้มากขึ้น โดยร้านค้าสามารถสมัครขอเข้าร่วมมาตรการผ่านกรมบัญชีกลางได้” นายลวรณกล่าว
ล่าสุด “ชิม ช้อป ใช้” มียอดการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 2.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 มูลค่า 1.65 หมื่นล้านบาท และยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 1 มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เดิมจะมีการเสนอ “ชิม ช้อป ใช้” ที่เปิดทางให้โมเดิร์นเทรดเข้าร่วมโครงการ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 เข้าร่วมโครงการได้ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ดี พบว่า ช่วงโครงการเฟส 3 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค.นี้ มีประเด็นที่ระบบตรวจพบว่า มีประชาชนบางส่วนโกงเงินกระเป๋า 2 มากขึ้น เช่น การสแกนใช้จ่ายเงินในพื้นที่เดียวกันซ้ำ ๆ หลายรอบ เช่นใช้ซื้อกาแฟวันละ 3-5 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าผิดปกติ กรมบัญชีกลางจึงให้มีการนำหลักฐานใบเสร็จซื้อสินค้ามายืนยันก่อน จึงจะจ่ายเงินแคชแบ็ก 15-20% ให้
“เดิมระบบพบข้อมูลใช้จ่ายผิดปกติในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปัจจุบันลามไปหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ เดิมโครงการเฟส 3 ตั้งงบประมาณจ่ายแคชแบ็ก 9,050 ล้านบาท โดยรอบแรกเดือน ธ.ค. 2562 มีผู้จะได้รับแคชแบ็กกว่า 7 หมื่นราย รอบที่ 2 ในเดือน ม.ค. 2563 มีผู้ได้รับแคชแบ็กกว่า
1 แสนราย ปรากฏว่า เพิ่งจ่ายได้ 6 หมื่นราย เพียง 215 ล้านบาท เนื่องจากสำนักงบประมาณไม่ยอมให้เบิกมากกว่านี้ ซึ่งตามเงื่อนไขโครงการเฟส 3 ต้องจ่ายแคชแบ็กให้จบในเดือน ก.พ. 2563 ดังนั้นก็ต้องรอดูว่าจะจัดการกันอย่างไร
ขณะที่นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ กล่าวว่า กรอบงบประมาณที่ตั้งไว้ 9,050 ล้านบาท ยืนยันว่ามีเงินพร้อมจ่าย หากทางกระทรวงการคลังทำเรื่องขอเบิกเข้ามา เพียงแต่การพิจารณาจ่ายเงินก็ต้องดูหลักฐานให้ถูกต้องด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาถูกตรวจสอบตามมาได้