นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยคาดว่าดัชนีจะแกว่งในกรอบล่างที่ระดับ 1,450-1,500 จุด ส่วนกรอบแนวต้านที่ระดับ 1,600-1,650 จุด กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจลงทุนมีเพียง 2 กลุ่มคือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งให้ผลตอบแทนในระดับ 4-5% ไม่ผันผวนมาก และกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็ก เน้นคัดเลือกรายตัวในบริษัทที่ยังมีผลประกอบการเติบโตระดับ 30-50% ต่อปีในกลุ่มไฟแนนซ์และเทคโนโลยี
ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ หาจังหวะเข้าลงทุนระยะสั้นได้เท่านั้น โดยเข้าซื้อเมื่อราคาปรับลงมาและขายทำกำไรเมื่อราคาปรับขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“ปีนี้เราคาดว่ายังเป็นเทรนด์แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นยังมีผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่หุ้นไทยคาดเดายากทำให้นักลงทุนยังกล้าๆ กลัวๆ และยังมีสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา แต่คาดว่าจะอยู่กับเราไปอีก 1-2 เดือน น่าคุมสถานการณ์ได้ จึงมองว่าช่วงนี้หากราคาหุ้นเป็นโอกาสที่เข้าซื้อได้”
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ที่ 40,000 ล้านบาท เติบโต 23% หรือเพิ่มขึ้น 5,000-7,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ 32,500 ล้านบาท เติบโต 3%
โดยปัจจุบันบริษัทมีกองทุนส่วนบุคคลที่ 6,700 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านบาทในปีนี้ และกองทุนรวมส่วนบุคคล 25,800 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3,000-5,000 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทมุ่งนำเสนอกองทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและไม่ผันผวนตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนในภาวะตลาดหุ้นผัวผวนและเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น โดยพบว่า ลูกค้าต้องการผลตอบแทนในระดับ 3-4% ไม่ต้องการความผันผวนมาก
ล่าสุดบริษัทเสนอขายกองทุนเปิด แอสเซสพลัส อสังหาริมทรัพย์ และโครงสร้างพื้นฐาน เฟล็กซิเบิล (ASP-PROPIN) มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาทกำหนดเสนอขายครั้งแรก IPO ตั้งแต่ 30ม.ค.-7ก.พ.2563 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับกองทุนนี้นักลงทุนสามารถใช้เพื่อเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนและเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในช่วงที่สภาวะตลาดผันผวน เน้นการลงทุนในหน่วยลงทุน TH REITs ,TH Infrastructure และ SG REITs รวมถึงลงทุนใน Lazard Global Listed Infrastructures Equity Fund ที่ลงทุนในหุ้น Global Infarstructure ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 8%ต่อปี
พร้อมกับยังคงแนะนำกองทุนเป็นพอร์ตหลัก เช่น กองทุนกองทุนเปิด แอสเซทพลัส ตราสารหนี้ เดลี่ พลัส ( ASP-DPLUS ) ผลตอบแทนปีก่อนอยู่ที่ 1.8-2% และขนาดกองทุน 11,000 ล้านบาท ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 3,000-5,000 ล้านบาท, กองทุนเปิด แอสเซทพลัส แอค ทีฟ แอสเซท แอลโลเคชั่น( ASP-AAA )ลงทุนหลากหลายสินทรัพย์เน้นลงทุนในไทยเป็นหลัก แบ่งเป็น ตราสารหนี้ไทย 60% กองรีทและอินฟราฟันด์ 10% และหุ้นทั่วโลกที่จะเน้นลงทุนดัชนี 30% มีผลตอบแทนปีก่อนที่ 5.3-5.4% และมีขนาดกองทุนอยู่ที่ 400 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 1,500-2,000 ล้านบาท
