วายแอลจี บูลเลี่ยน รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากนักลงทุนกลับมาวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) หลังจากจีนเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนเกณฑ์ในการนับจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนหวั่นว่า หากการระบาดขยายวงกว้างและกินเวลานานมากยิ่งขึ้น จะยิ่งกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงจนกดดันให้ดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ปิดตลาดในลบ ขณะที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุน

อย่างไรก็ดี สกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังการเปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่ออกมาดีเกินคาด ส่วนสกุลเงินยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเทียบดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนีมีความเกี่ยวพันทางการค้ากับจีนอย่างมากจึงมีแนวโน้มได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่าทางฝั่งสหรัฐ นั่นทำให้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำถูกสกัดช่วงบวกเอาไว้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, อัตราการใช้กำลังผลิต, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจาก UoM

ปัจจัยทางเทคนิก

หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,582 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,565-1,558 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยราคายังคงแกว่งตัวในกรอบในทิศทางค่อยๆปรับตัวขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน

การซื้อขายยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว ทั้งนี้ การเปิดสถานะขายอาจพิจารณาในโซน 1,582 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ฝั่งขายตัดขาดทุนหากผ่านโซนดังกล่าว ) และเข้าซื้อเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,565-1,558 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คำแนะนำ หากราคายังไม่สามารถผ่าน 1,582 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจใช้วิธีการลดพอร์ตการลงทุนลง และสำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรฝั่งซื้อให้รอการอ่อนตัวลงของราคาบริเวณแนวรับ 1,565-1,558 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากยืนได้จึงเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นอีกครั้ง