บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 1 มิ.ย. 2563
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทะยานขึ้น 13.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยประการแรก คือ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยดัชนี Core PCE และการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐที่ดิ่งลงเกินคาด ปัจจัยหนุนราคาทองคำประการที่ 2 ได้แก่ ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากในวันศุกร์ประธานาธิบดี ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง, คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นในฮ่องกง, สั่งห้ามชาวจีนบางรายเดินทางเข้าสหรัฐโดยระบุว่าอาจเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคง และยังได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลก (WHO)โดยระบุว่าเป็นหุ่นเชิดของจีนอีกด้วย
แม้สถานการณ์ที่กล่าวมาจะหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,737 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์ แต่ราคาทองคำลดช่วงบวกลงหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ระบุถึงการดำเนินการทางภาษีต่อจีน รวมถึงยังไม่ได้ดำเนินการใดๆที่กระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจนกดดันให้เกิดแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +3.51 ตันในวันศุกร์สู่ระดับ 1,123.14 ตันซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เม.ย.ปี 2013
ขณะที่เช้านี้ ทองคำทะยานขึ้นต่อ แตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,742 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขาย โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายจอร์จ ฟลอยด์ที่ลุกลามเป็นเหตุจลาจลในหลายพื้นที่ของสหรัฐ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐจากมาร์กิตและ ISM, ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง
คำแนะนำ เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,722-1,709 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,743-1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์
