ธนาคารไทยพาณิชย์ ผุดแอป “Robinhood” แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย ควัก 100 ล้านบาท หนุนคนสั่งอาหาร-ร้านค้า-คนขับรับบริการเป็นธรรม ประกาศไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม หวังสิ้นปีดึงร้านค้าขึ้นออนไลน์ 4-5 หมื่นร้านค้า พร้อมร่วมมือ “สกู๊ตตาร์” เจาะคนขับจักรยายนต์ โต้ไม่หวังแข่งตลาด “GET” ชี้ ไม่ละเมิดสัญญาณที่เซ็นร่วมกัน
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ธนาคารจะเปิดตัวแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย ภายใต้ชื่อ “Robinhood”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
“Robinhood” จะดำเนินการภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (Purple Ventures) บริษัทน้องใหม่ในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ที่ตั้งขึ้น โดยมีงบการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
นายอาทิตย์ กล่าวว่า แอปฯ ใหม่นี้มีเป้าหมายต้องการให้ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ผู้สั่งอาหาร ร้านอาหาร และผู้ขับขี่ ได้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยธนาคารจะไม่เก็บค่าจีพี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ต้องเจอเมื่อนำร้านขึ้นสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งค่าจีพีนับเป็น Pain Point หลักของผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กในปัจจุบันที่มีการเรียกเก็บราว 30-35%
จับมือ “สกู๊ตตาร์”
ทั้งนี้ ธนาคารใช้เวลาในการพัฒนาเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเบื้องต้นธนาคารจะร่วมกับพันธมิตร บริษัท สกู๊ตตาร์ บียอนด์ จำกัด ที่มีจำนวนจักรยานยนต์หลายหมื่นคัน รวมถึงสรรหาพันธมิตรหลายอื่นด้วย เนื่องจากธนาคารไม่ได้ร่วมเป็น Exclusive Partner กับสกู๊ตตาร์ฯ ส่วนร้านค้า จะเห็นว่าธนาคารพอมีฐานลูกค้าอยู่บ้างจากการทำแม่มณีก่อนหน้า โดยธนาคารตั้งเป้าภายในสิ้นปีจะมีร้านค้าร่วมแล้ว 4-5 หมื่นร้านค้า จากช่วงแรกจะมีร้านค้าร่วมประมาณ 2 หมื่นร้านค้า
อย่างไรก็ดี ในส่วนของความร่วมมือกับ Get ที่มีก่อนหน้านี้ จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากได้มีการพูดคุยกันเรียบร้อย และความร่วมมือจะเป็นเรื่องของไฟแนนซ์เชียล ขณะเดียวกัน ธนาคารไม่ได้ตั้งเป้าเข้ามาแย่งตลาดหรือแข่งขันในตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ แต่ต้องการเป็นทางเลือกให้ลูกค้าเท่านั้น ไม่ได้สร้างมาเพื่อล้มใครหรือแข่งขัน เพราะธนาคารจะไม่มีโปรโมชั่น
ส่วนหนึ่งถือเป็นโครงการเพื่อได้ CSR กับสังคม และหากธนาคารสามารถสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าเข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Engagement) และในอนาคตสามารถต่อยอดผ่านการปล่อยสินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่ใช่เพียงไฟแนนซ์เท่านั้น
“เราหวังว่า Robinhood จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยกลุ่มร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงเชนร้านอาหารต่าง ๆ ตลอดจนกลุ่มลูกค้าและคนขับ เพื่อให้เกิดเป็น Ecosystem ที่แข็งแรงและยั่งยืนต่อไป โดยตั้งใจให้เป็นช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่หักค่าจีพีสำหรับร้านอาหารรายย่อย สมัครฟรี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เจ้าของร้านได้เงินเร็วภายใน 1 ชั่วโมง รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ซึ่งเรื่องนี้เราได้รับการสนับสนุนจากบอร์ด และได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมองว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนได้ขี่มอเตอร์ไซค์มากขึ้น”
ปรับตัวรับ โควิด-19
นายอาทิตย์ กล่าวว่า ธนาคารเชื่อว่า วิกฤตโควิด-19 ยังไม่จบ และกว่าเศรษฐกิจจะกลับแข็งแรงแบบที่เคยเป็นมา คงต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น ธนาคารจึงใช้ห้วงเวลาดังกล่าวมาเป็นโอกาสในการพัฒนาองค์กรและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผ่านยุทธศาสตร์ “SCB New Normal”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB ระบุว่า รากฐานที่แข็งแรงจากการทำ Digital Transformation ทำให้ธนาคารมีขีดความสามารถในการเป็นองค์กรที่มีความตัวเบา และสามารถกำหนดรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) การปรับต้นทุนการให้บริการ แนวทางการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า การให้บริการกับลูกค้าในทุกๆ เซ็กเมนต์ และนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อการสร้างคุณค่าใหม่ (Core Value)
“วิกฤตการณ์โควิด19 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายอุตสาหกรรม ธนาคารได้เห็นการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเริ่มเห็นขนาดของปัญหาและลูกค้าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สิ่งที่ต้องทำวันนั้น คือ ทำอย่างไรให้ขวัญและกำลังใจของคนในองค์กรเข้มแข็งที่สุด กระทั่งองค์กรแข็งแรงและนิ่งได้” นายอาทิตย์ กล่าว
“จากนั้น จึงนำมาสู่การดูแลลูกค้าอย่างเร่งด่วน เพื่อลดภาระของลูกค้าให้มากที่สุด ผ่านมาตรการพักชำระหนี้มากกว่าหลายแสนราย รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อเป็นการเยียวยาลูกค้า โดยเป็นการทำงานคู่กับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยดูแลคนไม่ให้ตกงาน เพราะธุรกิจของลูกค้าเมื่อโควิดหายไป ลูกค้าจะกลับมาได้ โดยธนาคารพร้อมเป็นเสาหลักของสังคมที่จะช่วยลูกค้า”