บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 4 ส.ค. 2563
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากในระหว่างวันราคาทองคำพุ่งขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 1,987.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชียจากความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะแบนแอป “TikTok” ของจีนซึ่งกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย พร้อมกับกดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่า
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำถูกแรงขายทำกำไรในเวลาต่อมา ขณะที่ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นกดดันราคาทองคำเพิ่ม หลังโมโครซอฟท์ออกมายืนยันว่า ทางบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการ TikTok ขณะที่สื่อรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะให้เวลา 45 วันแก่บริษัท ByteDance ของจีนในการเจรจาเพื่อขายกิจการ TikTok ให้แก่ไมโครซอฟท์ นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มหลัง ISM เผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 54.2 ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีอีกด้วย
สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,959.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่แรงซื้อ Buy the dip ในราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองและเสรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ส่งผลให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นกลับมาปิดตลาดในแดนบวกได้ในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +6.43 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน และการสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก IBD/TIPP
คำแนะนำ ราคาทองคำมีแรงซื้อเข้ามาพยุงให้ราคาเคลื่อนไหวในระดับสูง หากสามารถยืน 1,965 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น เพื่อรอแบ่งทองคำออกขายทำกำไรโซน 1,988 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป