บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 4 ก.ย. 2563 2563
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 12.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระหว่างการซื้อขายของตลาดยุโรปราคาทองคำได้รับแรงดันหลักมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในระหว่างสัปดาห์ที่ออกมาดีเกินคาด ประกอบกับสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ ที่ 1.17864 ดอลลาร์ หลังจากที่ นสพ.ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า สมาชิกหลายคนของคณะมนตรีบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กังวลว่า การแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินยูโรอาจจะถ่วงการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก และเพิ่มแรงกดดันต่อมาตรการกระตุ้นทางการเงิน
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลง แต่ยังพอมีแรงซื้อสลับเข้ามา ซึ่งทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นเป็นระยะ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวลงอีกครั้งในช่วงตลาดสหรัฐ โดยร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนัก ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 807.77 จุด หรือ -2.78%, S&P500 ปิด -3.51% และ Nasdaq ปิด -4.96% โดยดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวดังกล่าวร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. จากแรงขายหุ้นล็อกกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นก่อนหน้านี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ถูกเทขายอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทองเพื่อโยกเงินเติมมาร์จิ้น และชดเชยผลขาดทุนในหุ้น
ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,921.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่สกุลเงินดอลลาร์จะลดช่วงบวกลงและหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาปิดตลาดบริเวณ 1,930.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐ ทั้ง การจ้างงานนอกภาคการเกษตร, อัตราการว่างงานและรายได้เฉลี่ยชั่วโมงแรงงาน
คำแนะนำ ราคาทองคำยังมีกำลังซื้อที่ไม่มากนัก จับตาบริเวณโซนแนวต้าน 1,947-1,951 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง การลงทุนในช่วงนี้จึงเน้นไปที่รอจังหวะขายเมื่อราคาดีดตัวไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว
