“กองทุนหุ้นเทค” ยิลด์แจ่มยืนหนึ่ง +28% สวนทางกองทุนน้ำมันร่วงท้ายตาราง

“มอนิ่งสตาร์” เผยไตรมาส 3 ผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนรวมชะลอตัวกว่าไตรมาสก่อนหน้า แต่ 9 เดือนแรก “กองทุนหุ้นเทคโนโลยี” ยิลด์ยังแจ่มยืนหนึ่ง +28.79% สวนทาง “กองทุน Property Indect-น้ำมัน-หุ้นไทยขนาดใหญ่” ยิลด์ร่วงท้ายตาราง

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนรวมไตรมาส 3/63 ส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะชะลอตัวกว่าไตรมาสก่อนหน้า หากดูที่ภาพรวมประเภทสินทรัพย์จะพบว่ากลุ่มกองทุนทองคำยังถือว่าให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดี ในขณะที่กองทุนผสม ตราสารทุน หรือตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำ

ตลาดหุ้นอินเดียเคยเป็นตลาดที่ค่อนข้าง underperform ตลาดอื่นในช่วงครึ่งปีแรก แต่ในช่วงไตรมาสนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งสวนทางกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่แย่ลงในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยเหตุนี้กองทุนหุ้นอินเดียจึงเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดในไตรมาส 3 ที่ 13.8% อย่างไรก็ตามผลตอบแทนเฉลี่ยสะสม 9 เดือน (YTD) ยังคงติดลบที่ -4.5% และรอบ 1 ปี ยังคงติดลบอยู่เล็กน้อย

กองทุนหุ้นเทคโนโลยี (Global Technology) อาจเป็นกลุ่มที่ช่วยพยุงพอร์ตการลงทุนได้ในช่วงที่ผ่านมา โดยเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดในช่วง 9 เดือนแรกมีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสม 28.8% และสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 41.2% หุ้น Technology ที่ outperform ตลาดหุ้นสหรัฐโดยรวมค่อนข้างมาก จนทำให้ปัจจุบันราคาหุ้นเทคโนโลยีอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าในช่วงก่อนหน้า เห็นได้จากผลตอบแทนกองทุนรวมกลุ่มนี้ที่เริ่มชะลอตัวลงกว่าไตรมาส 2

กองทุนกลุ่ม Global Health Care เป็นอีกกลุ่มที่อาจได้รับกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในเชิงบวกจากความคืบหน้าการผลิตวัคซีนที่แม้ว่าอาจไม่สร้างผลกำไรให้อุตสาหกรรมนี้มากนัก แต่ก็ยังช่วยให้ส่งเสริมในแง่ของ goodwill ของบริษัทผู้ผลิตยา ด้านการเลือกตั้งในสหรัฐฯ นั้นอาจยังไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการสวัสดิการสุขภาพมากนัก ทำให้หุ้นกลุ่มนี้อาจมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมหรือการบริโภคอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยผลตอบแทนเฉลี่ยในรอบ 1 ปีอยู่ที่ 28.8% หรือเป็นรองเพียงหุ้นกลุ่ม Technology

แม้ราคาทองคำในตลาดโลกอาจมีการปรับตัวลงมาบ้างในไตรมาสล่าสุด แต่กองทุนทองคำ (Commodities Precious Metals) ยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 6.7% ทำให้ยังเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูงติดอันดับในรอบ 1 ปี ที่ 25.9% ด้านกองทุนน้ำมัน (Commodities Energy) แม้จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในไตรมาสล่าสุดที่ 2.8% แต่ยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบมากที่สุดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

กองทุนกลุ่ม Global Bond มีผลตอบแทนเฉลี่ย 3 เดือน 2.3% ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 5.1% ทำให้มีผลตอบแทนกลับมาเป็นบวกจากที่ติดลบในช่วงครึ่งปีแรก ในภาพรวมกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศจะยังดูดีกว่ากองทุนตราสารหนี้ไทยที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำกว่าจากนโยบายภาครัฐที่ต่างกันในการเข้าพยุงตลาดตราสารหนี้

กองทุนกลุ่ม Property Indirect มีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ -7.3% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากผลตอบแทนของกองทุน Property Fund และกองทรัสต์หลายกองทุนมีการปรับตัวลง ทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสะสม 9 เดือนอยู่ที่ -20.1%

ผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนรวม (%) – ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2020


จากสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ถือว่าแย่กว่าหลายประเทศทำให้กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ มีผลตอบแทนที่อยู่ท้ายตาราง โดยในรอบ 1 ปีมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบถึง -23.6% ทั้งนี้ในรอบครึ่งปีแรกอยู่ที่ราว -14% และในรอบ 3 เดือนล่าสุดยังคงติดลบเพิ่มอีกเกือบ 8% ทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสะสม 9 เดือนอยู่ที่ -21.3% ในขณะที่กองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (Equity Small/Mid-Cap) มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดูดีกว่าโดย 3 เดือนล่าสุดเป็นบวกเล็กน้อยที่ 0.1% รวมผลตอบแทนเฉลี่ยสะสม 9 เดือน ยังติดลบอยู่ -8.4% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับหุ้นขนาดกลาง-เล็กและดัชนี mai ที่มีผลตอบแทนดีกว่าดัชนี SET Index (SET mai TR 5.5%)