นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน ต.ค.2563 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 9% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 61.27 จุด เข้าสู่แดน “ซบเซา” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 8 เดือน โดยนักลงทุนรายย่อยปรับตัวลง 2.2% กลุ่มบัญชีหลักทรัพย์ปรับตัวลง 37.5% กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับตัวลง 8.7% และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับตัวลง 6.7%
โดยปัจจัยที่กดดันหลักรอบนี้ คือ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไม่ค่อยน่าไว้วางใจในช่วงที่ผ่านมา จากการชุมนุมและมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง รวมไปถึงการถดถอยของเศรษฐกิจไทยและการท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนี้มีความกังวลต่อการระบาดระลอก 2 ของโควิด-19 โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สิ้น ต.ค. ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET index) ปิดที่ 1,194.95 จุด ลดลง 3.40% จากเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมา คือ นโยบายภาครัฐและการไหลเข้าออกของเงินทุน อย่างไรก็ดีต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ ทิศทางเศรษฐกิจหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ การเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและอียู เพื่อหาข้อตกลงก่อนที่จะจบ Transition period ในปลายปีนี้ และในส่วนปัจจัยในประเทศคือ ความยืดเยื้อของการชุมนุมทางการเมือง และการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน
