‘ประยุทธ์’ สั่งคลังขยาย “คนละครึ่ง” มากกว่า 10 ล้านสิทธิ

คนละครึ่ง เว็บ

คลังชี้นายกฯ สั่งขยายมาตรการ “คนละครึ่ง” ให้ประชาชนได้สิทธิมากกว่า 10 ล้านคน ชี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนแบบ “ร่วมจ่าย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได่ชี้แจงประเด็นข้อวิจารณ์การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ว่าโครงการคนละครึ่ง เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือเยียวยา เพิ่มกำลังซื้อ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มดังกล่าว

2) โครงการคนละครึ่ง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้จากการขายสินค้า โดยกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 10 ล้านคน และ 3) มาตรการช้อปดีมีคืน เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี โดยผู้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ประมาณ 3.7 ล้านคน

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า รัฐบาลมีความต้องการดูแลประชาชนให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม ซึ่งนอกเหนือจากมาตรการดังกล่าวแล้ว รัฐบาลยังได้มีการดูแลประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ผ่านมาตรการอื่น ๆ ของรัฐด้วย

ในส่วนของโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนนั้น เนื่องจากเป็นการร่วมจ่าย กลุ่มเป้าหมายจึงเป็นผู้ที่พอจะมีรายได้เพื่อมาร่วมจ่ายกับรัฐ ซึ่งได้มีการตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10 ล้านคน โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญของโครงการ คือ ระบบการใช้จ่ายด้วยแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน”  ที่ต้องมีการยืนยันตัวตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้ใช้ให้มั่นใจว่าไม่มีผู้อื่นมาใช้สิทธิแทน และมีการใช้จ่ายจริงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้กับประชาชนจนถึงระดับฐานราก ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาให้สังคมไทยเดินหน้าสู่ Digital Society ไปพร้อม ๆ กัน ในขณะเดียวกันยังเป็นการลดการใช้เงินสด ทำให้การดำเนินโครงการโปร่งใส รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ทั้งนี้ เนื่องจากในการลงทะเบียนรอบเพิ่มเติม 2 ครั้งที่ผ่านมาเพื่อให้ได้ 10 ล้านสิทธิ  มีประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอีกเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีจึงได้มีดำริให้กระทรวงการคลังพิจารณาขยายโครงการคนละครึ่ง ซึ่งกระทรวงการคลังจะพิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นและสอดคล้องกับงบประมาณที่สามารถจัดสรรได้ รวมทั้งจะพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ร้านค้าและประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการมากยิ่งขึ้น