BLA กำไรหด 63% เหลือ 1,608 ล้านบาท ตั้งสำรองเพิ่ม-รายได้เงินลงทุนลด

“กรุงเทพประกันชีวิต” กำไรสุทธิปี’63 หดตัว 63% เหลือ 1,608 ล้านบาท แบกภาระตั้งสำรองค่าเผื่อความผันผวนเพิ่ม-รายได้เงินลงทุนลด เบี้ยประกันรวมอยู่ที่ 34,745 ล้านบาท ลดลง 3% เซ่นเบี้ยปีต่ออายุช่องทางแบงก์-ตัวแทนครบกำหนดพรึ่บ

ม.ล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,608 ล้านบาท ลดลง 63% จากช่วงเดียวกันปีก่อน(YoY) เนื่องจากการตั้งสำรองค่าเผื่อความผันผวน (PAD: Provision for Adverse Deviation) เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากรายได้เงินลงทุนที่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 34,745 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลของการลดลงของเบี้ยประกันรับปีต่ออายุของช่องทางธนาคารและช่องทางตัวแทนที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกันในปีนี้

อย่างไรก็ตามบริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรกเพิ่มขึ้น 6% มาอยู่ที่ 6,550 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่เบี้ยประกันรับปีแรกลดลง 11% โดยการเติบโตของบริษัทเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยของช่องทางธนาคาร(แบงก์แอสชัวรันซ์) จากสินค้ากลยุทธ์ซึ่งได้วางแผนการขายร่วมกับธนาคารในไตรมาส 3/63 ทำให้ช่องทางธนาคารมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้น 13%

ในขณะที่ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันรับปีแรกลดลง 12% จากปีก่อน จากการปรับประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ขายและผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของโควิด-19 ส่วนช่องทางอื่นๆ มีเบี้ยเพิ่มขึ้น 15% จากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันของการรับประกันภัยกลุ่ม ช่องทางออนไลน์และช่องทางการตลาดตรง

สำหรับในไตรมาส 4/63 บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรก 1,194 ล้านบาท ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการลดลงของเบี้ยประกันรับปีแรกจากช่องทางธนาคาร ซึ่งบริษัทได้มีการทำการตลาดสินค้ากลยุทธ์ในไตรมาสก่อนหน้า

“ในไตรมาสที่ 4 บริษัททำการตลาดในช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง โดยในช่องทางธนาคาร บริษัทยังคงทำการตลาดผ่านแคมเปญ “เลือกประกันที่ดี ชีวิตมีแต่ได้” ที่มี นาย ณภัทร เสียงสมบุญ แบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบบประกันเกนเฟิสต์ (Gain 1st) ในส่วนของช่องตัวแทน บริษัทได้ทำการตลาดผ่านแบบประกันสะสมทรัพย์ใหม่แบบมีเงินปันผล และแบบประกันสุขภาพต่างๆ รวมทั้งบริษัทได้มุ่งให้ความสำคัญในการสร้างและพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน ผ่านโครงการรับรองรายได้ผู้บริหารตัวแทนมืออาชีพ (Smart Leader) เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพทีมงานขายอย่างมั่นคงและยั่งยืน

บริษัทยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ด้านแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม”

โดยสินทรัพย์รวมของบริษัท(สิ้นปี 63) มีจำนวน 339,778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากสิ้นปี 2562 สินทรัพย์ลงทุนมีสัดส่วนสูงที่สุด 95% ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR)  อยู่ที่ 274% (ณ ไตรมาส 3/63)