ปลัดคลัง เร่งออกแบบ “คนละครึ่ง” เฟส 3 ภาคบริการร่วมโครงการได้

คนละครึ่งนะ

ปลัดคลัง เร่งออกแบบ คนละครึ่ง เฟส 3 เล็งหารือ รมว.คลัง สรุปต่อโครงการหลังเฟส 2 จบสิ้นเดือนมี.ค.นี้ ชี้เปิดกว้างภาคบริการเข้าร่วมได้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนนโยบายลดภาษีนิติบุคคล อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการเร่งออกแบบโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ซึ่งยังไม่สรุปว่าเมื่อจบโครงการสิ้นเดือนมี.ค.นี้ จะต่อโครงการเลยหรือไม่ โดยจะไปหารือเพื่อเสนอนโยบายให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งรูปแบบจะใกล้เคียงหลักการเดิมของโครงการคนละครึ่งที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ แต่จะขยายให้ร้านค้าภาคบริการสามารถเข้าร่วมโครงการได้ด้วย เหมือนกับโครงการเราชนะ

“เราจะเอาสิ่งที่มันบกพร่องมาปรับปรุงให้มันดีขึ้น หรืออะไรที่ยังไม่ครอบคลุมก็จะทำให้ครอบคลุม เช่น รอบนี้เรามีข้อมูลจากบริการก็อาจจะรวมเข้าไปด้วย เพราะคนละครึ่งเฟสแรกมีเพียงข้อมูลการซื้อสินค้า เป็นต้น โดยที่ทำโครงการเราชนะ ก็มีภาคบบริการเข้ามาแล้ว ก็จะดูผลของภาคบริการด้วย โดยตอนนี้ได้ให้กรุงไทยไปรวบรวมข้อมูลภาคบริการแล้ว ว่ามีส่วนใดบ้าง”

ส่วนจะมีการเปิดลงทะเบียนอีกครั้งหรือไม่นั้น จะต้องรอดูนโยบาย และงบประมาณด้วย ซึ่งในมุมมองของตนนั้นก็อยากจะให้คนที่อยากได้ก็ควรจะได้ทุกคน ซึ่งจะพิจารณากับองค์ประกอบต่างๆ ด้วย ขณะที่จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 15 ล้านคน หรือจะขยายจำนวนถึง 30 ล้านคนเท่ากับโครงการเราชนะหรือไม่นั้น ต้องรอดูเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้ก่อนว่าเพียงพอหรือไม่

อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาการใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งขณะนี้ในส่วนของก้อนเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เต็มวงเงินแล้ว 5.5 แสนล้านบาท ก็อาจจะมีการพิจารณาใช้วงเงินจากก้อนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ยังมีวงเงินเหลืออยู่ 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะพิจารณาว่ามีวงเงินเท่าไหร่ อย่างไรบ้าง ส่วนก้อนที่ใช้สำหรับสาธารณะสุข มีวงเงินทั้งหมด 4.5 หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายแล้วประมาณ 1.5 พันล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่พิจารณาจะออกโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เนื่องจากโมเมนต์ตัมในเรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โครงการดังกล่าวสามารถช่วยเหลือได้ทุกภาคส่วนจริง และสามารถช่วยผู้ประกอบการรายเล็กได้จริง ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการอยู่เกือบ 2 ล้านราย รวมทั้งภาคบริการด้วย และช่วยได้ทั้งประชาชนทั่วไปด้วย

ส่วนนโยบายลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อจูงใจนักลงทุนต่างประเทศ ตามนโยบายของ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนั้น ขณะนี้ภาษีนิติบุคคลยังคิดอัตราที่ระดับ 20% โดยรายได้ไม่เกิน 3 แสนบาท จะยกเว้นอัตราภาษีให้ ส่วนรายได้เกิน 3 แสนบาท คิดอัตราภาษีเพียง 15% และสูงสุด 20% อย่างไรก็ดี จะต้องไปพิจารณากับประเทศเพื่อนบ้านด้วย ว่าอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ ซึ่งจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับนิติบุคคล

ทั้งนี้ หากมีการพิจาณาลดอัตราภาษี ก็จะมีการทดแทนในเรื่องรายได้ด้วย โดยขณะนี้หากมีการเสนอมาตรการอะไรออกไป จะทำในรูปแบบแพ็กเกจ เพื่อสามารถจัดเก็บรายได้มาทดแทนได้ ซึ่งหากออกโครงการใดมาแล้ว ก็จะต้องมีโครงการที่มาทดแทนรายได้ เพื่อความสมดุลด้วย