เจนเนอราลี่ บุกช่องทางตัวแทนขายประกัน ยินดีรับคนย้ายค่าย ตั้งเป้าสิ้นปี 500 คน

เจนเนอราลี่ บุกช่องทางตัวแทน เปิดตัว “ซีเอโอ” คนใหม่ “ชวลิต ทองรมย์” อดีตมือบริหารค่ายฟิลลิปประกันชีวิต ตั้งเป้ารีครูตตัวแทนใหม่ 500 คน ระบุยินดีสำหรับคนต้องการย้ายค่าย ตั้งเป้าเบี้ยปีแรกเติบโต 40% ด้าน “บัณฑิต” ซีอีโอ เผยช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางสำคัญของเจนเนอราลี่ทั่วโลก ตั้งเป้าเบี้ยปีนี้โต 9% หลังขยายพันธมิตรเพิ่ม

วันที่ 10 มิถุนายน 2564 นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ แถลงข่าวเปิดตัว “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนคนใหม่ ของบริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) ว่า ช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางที่สำคัญของเจนเนอราลี่ทั่วโลก ปัจจุบันมีตัวแทนมากกว่า 1.5 แสนคนทั่วโลก (ดำเนินธุรกิจอยู่กว่า 50 ประเทศทั่วโลก) เฉพาะตัวแทนในประเทศแถบเอเชียมีทั้งสิ้น 5.79 หมื่นคน ดังนั้นเป้าหมายในประเทศไทยจะให้ความสำคัญมากที่สุดกับการขยายงานผ่านช่องทางตัวแทน ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ผู้บริหารคนใหม่เข้ามาช่วยขยายงานเรียบร้อยแล้ว

โดยในปี 2564 จึงคาดการณ์ว่าธุรกิจประกันชีวิตจะมีเบี้ยประกันเติบโต 9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจาก 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย. 64) มีเบี้ยรวม 3,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.76% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากมีการขยายพันธมิตรใหม่เพิ่มเติม โดยปัจจุบันเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร กรุงศรี ออโต้ ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น และรายล่าสุดคือ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย

ขณะเดียวกันช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับเปลี่ยนทิศทางสินค้าที่ไม่มีความอ่อนไหวกับทิศทางดอกเบี้ยไปเรียบร้อยแล้วด้วย โดยได้หันมาโฟกัสสินค้าความคุ้มครองสุขภาพและประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงก์) มากขึ้น ประกอบกับมีแผนรับมือรองรับสถานการณ์โควิดได้ค่อนข้างดีด้วย

นายชวลิต ทองรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทน บมจ.เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) หรือ GT ได้กล่าวเปิดกลยุทธ์ช่องทางตัวแทน The Next Level Of Generali Agency ว่า บริษัทจะดำเนินกลยุทธ์ผ่าน C.S.E.P. (Capable people : พัฒนาศักยภาพตัวแทน, Suitable product: นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า, Efficiency technology : เพิ่มประสิทธิผลด้วยเทคโนโลยี, Professional service : ให้บริการที่เลิศแก่ลูกค้า)

โดยจะโฟกัสเรื่องความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และการออมการลงทุน โดยจะมีตัวแทนอยู่ทั้งหมด 3 กลุ่มหลักคือ 1.ตัวแทนเชี่ยวชาญการแนะนำแบบประกัน 2.ผู้ออกแบบและบริหารสินทรัพย์ และ 3.ที่ปรึกษาความมั่งคั่ง ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่มาช่วยแก้ไขปัญหาการเงินให้ลูกค้า

“เราพร้อมที่จะไปดูแลลูกค้าผ่านแบบประกันที่ครบวงจร โดยในช่วงโควิดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยคนไทยยังมีเงินฝากในบัญชีเกิน 10 ล้านบาท มีมูลค่ากว่า 7.1 พันล้านบาท ในขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจากสูงสุด 24% ปัจจุบันเหลือเพียง 0.125-2% ซึ่งเป็นโอกาสด้านการเติบโตของธุรกิจประกันช่องทางเอเยนซี่กว่า 320,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในตลาด” นายชวลิตกล่าว

โดยเป้าหมายปีนี้ตั้งเป้ารีครูท ตัวแทนใหม่ 500 คน จากปัจจุบันมีตัวแทนอยู่แค่หลักร้อยราย ซึ่งเป็นเพราะบริษัทเน้นพัฒนาตัวแทนที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ ทั้งนี้ มีเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนตัวแทนคุณภาพ 70% จากปีก่อน และเพิ่มจำนวนตัวแทน MDRT (ตัวแทนเงินล้าน) อีก 50% จากปัจจุบันมีอยู่กว่า 10 ราย เพื่อส่งเสริมและสร้างรายได้เป้าหมายให้ตัวแทนขั้นต่ำที่ 25,000 บาทต่อเดือน โดยตั้งเป้าส่งมอบรายได้เบี้ยรับปีแรก (FYP) ผ่านช่องทางตัวแทนปีนี้เติบโต 40%

“เรายินดีสำหรับคนต้องการย้ายค่าย ตัวแทนค่ายไหนจะเข้ามาได้หมด เราพร้อมรับมาก ใครบาดเจ็บ ไม่พอใจ เราเตรียมน้ำชา กาแฟ อาหารหลัก อาหารเสริม พร้อมรับทุกคน ส่วนคนที่ไม่ใช่ตัวแทนมาก่อนเราก็ยินดีโค้ชชิ่งและเรียนรู้งานใหม่”

ต่อไปโครงสร้างช่องทางตัวแทนต้องอยู่ได้ในระยะยาว มีความมั่นคงและแน่นอน ซึ่งปัจจุบันเจนเนอราลี่กรุ๊ปให้ความสำคัญช่องทางตัวแทนเป็นอันดับ 1 ดังนั้นปีนี้งบประมาณ และเทคโนโลยีที่สะสมมานานของกลุ่มจะถูกนำลงมาให้ประเทศไทย โดยเป้าหมายในการพัฒนาตัวแทนมีอยู่ด้วยกัน 2 ด้านคือ 1.ตัวแทนเต็มเวลา และ 2.ตัวแทนมืออาชีพ (มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน) โดยทั้งสองด้านจะมีโค้ชชิ่งมาช่วยพัฒนาตัวแทนให้มีความรู้ทันเหตุการณ์ เพื่อออกไปแก้ไขปัญหาทางการเงินให้ลูกค้าได้รอบด้าน

นอกจากนี้ช่วงโควิดระบาดบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมผลิตภัณฑ์ medical fund twenty แบบประกันที่ช่วยคุ้มครองลูกค้าตลอดระยะเวลา 20 ปี ด้วยมิติโฉมใหม่ เข้าถึงลูกค้าได้แบบ need based selling

“ผมเข้ามารับตำแหน่งโดยเป็นสัญญาใจ ต้องการทำงานแบบครอบครัวภายใต้เจนเนอราลี่กรุ๊ป อยู่แบบยาวๆ ซึ่งผมจะนำประสบการณ์ที่ผ่านมา ช่วยพัฒนาตัวแทนจากที่รายได้น้อยขึ้นมาเป็นหลักแสนหลักล้าน ผนวกกับโมเดลของเจนเนอราลี่ในการบริหารจัดการที่ดีมากๆ อยู่แล้ว เพื่อสร้างรายได้ให้ตัวแทนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และช่วยเพิ่มค่าเฉลี่ยของเบี้ยประกันที่ลูกค้าจ่ายจากระดับ 3 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 5 หมื่นบาท ไปจนถึง 1 แสนบาท”