หุ้น-การเงิน

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า รอพัฒนาการวัคซีน – ยอดโควิดพุ่งชี้ชะตาขยายล็อกดาวน์

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ดัชนี SET Index แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,540-1,600 จุด ระหว่างรอความคืบหน้าวัคซีนทางเลือก หนึ่งในตัวแปรหลักทำให้แผนการเปิดประเทศเป็นผลได้ตามกำหนด “บล.ฟิลลิป” ประเมินผล “Partial Lockdown” หลังครบ 14 วัน ช่วง 25 ก.ค.นี้ ศบค.มีแนวโน้มขยายใช้มาตรการออกไปอีก 14 วัน หวั่นกดดันกำไรต่อหุ้นจนอาจทำให้ Valuation ตึงตัวมาก เหตุการปรับลดคาดการณ์ GDP ปี’64 หลายสำนักยังไม่ได้รวมปัจจัยนี้

วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า(19-23 ก.ค.64) ว่า ดัชนี SET Index แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,540-1,600 จุด ระหว่างรอความคืบหน้าวัคซีนทางเลือก ซึ่งจะเป็นหนึ่งในตัวแปรหลัก ที่จะทำให้แผนการเปิดประเทศเป็นผลได้ตามกำหนด กลยุทธ์ลงทุนเน้น selective play ในหุ้นรับเงินบาทอ่อน, การระบาดโควิด, ผลประกอบการดี 

ประเมินผลการใช้ Partial Lockdown หลังครบ 14 วัน ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ทางฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันค่อนข้างมาก หากเร่งตัวขึ้นเหนือ 1 หมื่นรายต่อวัน คาดว่า ศบค.จะมีแนวโน้มขยายระยะเวลาใช้มาตรการ Partial Lockdown ออกไปอีก 14 วัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันกำไรต่อหุ้น(EPS) ของตลาดหุ้นไทยจนอาจทำให้ Valuation ตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากการปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 64 ของหลายแห่งยังไม่ได้รวมปัจจัยนี้เข้าไป 

ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะในกลุ่ม Re-opening ที่มีรายได้อยู่ในประเทศเป็นส่วนใหญ่ และติดตามการประชุม ศบค.ใกล้ชิด 

โดยความกังวลการฉีดวัคซีนในประเทศอาจชะลอตัว เริ่มกลับมาเป็นปัจจัยกดดัน SET Index อีกครั้ง หลัง รมช.สาธารณสุข เผยว่า AstraZeneca ไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ไทยได้ตามที่ได้แจ้งไว้ ตอนนี้ภาครัฐจึงพยายามเร่งหาวัคซีนจากรายอื่นอย่างเร่งด่วน ส่วนข่าวดีได้แก่ THG ยืนยันกับทาง ตลท. ว่านำเข้าวัคซีน mRNA จริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสารกับตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ โดยจะแจ้งระยะเวลาที่ชัดเจนต่อไป และสภากาชาดไทยประกาศนำเข้า Moderna จำนวน 1 ล้านโดส พร้อมฉีดให้ประชาชนฟรี 

ส่วนวันที่ 21 ก.ค.นี้ ติดตามการชำระเงินค่าวัคซีน Moderna ของ รพ.เอกชน จ่ายให้แก่องค์การเภส์ชกรรม ซึ่งจะนำไปสู่การลงนามสั่งซื้อระหว่างองค์การเภสัชกรรม และบจ.ซิลลิค ฟาร์มา ในวันที่ 23 ก.ค. ซึ่งต้องตามต่อว่าหน่วยงานต่างๆ จะสามารถนำเข้าวัคซีนรายอื่นๆ เข้ามาได้รวดเร็วและจำนวนมากน้อยแค่ไหน 

ติดตามการรายงานการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันเดือน ส.ค. อย่างเป็นทางการจากกลุ่ม OPEC+ ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า UAE และซาอุดิอาระเบีย สามารถบรรจุข้อตกลงในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขั้นต่ำของ UAE ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้ติดตามประกาศอย่างเป็นทางการจากกลุ่ม OPEC+ เพื่อรอดูปริมาณการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเดือน ส.ค. โดยในเบื้องต้นคาดว่ากลุ่ม OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ตามผลการประชุมรอบล่าสุด ดังนั้นในระยะสั้นคาดราคาน้ำมันดิบโลกแนวโน้มแกว่งตัวอิงทางลง ส่งผลเชิงลบต่อกลุ่ม ENERG ที่คอยกดตลาดหุ้นไทยไม่ให้ไปไหนไกล